คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4502/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การรอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 กฎหมายให้ศาลพิจารณาหลายเหตุ แม้เหตุที่ว่าผู้ตายมีส่วนประมาทด้วยหรือไม่เป็นเหตุหนึ่งที่จะนำมาใช้ประกอบดุลพินิจว่าสมควรรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีนี้ จำเลยกระทำผิดโดยประมาท มิได้เกิดจากเจตนาร้าย จำเลยมีอาชีพรับราชการเป็นอาจารย์ 1 ระดับ 4 มีฐานะที่จะเลี้ยงตัวและบุตรให้อยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดีเป็นเหตุอันสมควรที่จะรอการลงโทษจำเลยไว้ เมื่อมีเหตุต่าง ๆ ดังกล่าวเพียงพอที่จะพิจารณารอการลงโทษให้จำเลยแล้ว คดีก็ไม่จำต้องวินิจฉัยในปัญหาตามฎีกาของโจทก์ร่วมที่ว่าผู้ตายมีส่วนประมาทด้วยหรือไม่อีกแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นางลำจวน ศรีศักดา มารดาของนายบรรเจิดพันธุเวช ผู้ตายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วให้จำคุกจำเลย 1 ปี การที่จำเลยไม่ใยดีช่วยเหลือผู้ตายหลังเกิดเหตุจึงเป็นกรณีที่ยังไม่เห็นสมควรรอการลงโทษให้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับจำเลย 10,000 บาทอีกสถานหนึ่งด้วย โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ร่วมฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้นายบรรเจิด พันธุเวชถึงแก่ความตายศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้ตายประมาทมากกว่า จำเลยรับราชการเป็นอาจารย์ 1 ระดับ 4 มีบุตรและภรรยาแล้ว ควรรอการลงโทษจำคุกไว้ก่อน แต่เพื่อให้จำเลยหลาบจำให้ลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งด้วย พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษปรับจำเลย 10,000บาท อีกสถานหนึ่งด้วย โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี ข้อต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ร่วมมีว่า ผู้ตายมีส่วนประมาทด้วยหรือไม่และควรรอการลงโทษจำเลยหรือไม่ เห็นว่า เรื่องการรอการลงโทษต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายอาญา คือเป็นคดีที่ศาลลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี จำเลยไม่เคยได้รับโทษมาก่อน และให้ศาลคำนึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรมสุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพและสิ่งแวดล้อมของผู้นั้น หรือสภาพความผิด หรือเหตุอื่นอันควรปรานี ซึ่งจะเห็นได้ว่ากฎหมายบทนี้ให้ศาลพิจารณาหลายเหตุ คดีนี้เป็นความผิดโดยประมาท มิได้เกิดจากเจตนาร้ายของจำเลย จำเลยมีอาชีพรับราชการเป็นอาจารย์ 1ระดับ 4 มีฐานะที่จะเลี้ยงตัว ภรรยาและบุตรให้อยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดี เป็นเหตุอันสมควรที่จะรอการลงโทษไว้ เมื่อมีเหตุต่าง ๆดังกล่าวมาข้างต้นเพียงพอที่จะพิจารณารอการลงโทษให้จำเลยแล้วคดีก็ไม่จำต้องวินิจฉัยในปัญหาต่อไปตามฎีกาของโจทก์ร่วมที่ว่าผู้ตายมีส่วนประมาทด้วยหรือไม่อีกแต่อย่างใด
พิพากษายืน

Share