คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กู้เงินทำหนังสือกู้กันเองตกลงให้ผู้ให้กู้ครอบครองที่นาไว้เป็นประกัน และทำต่างดอกเบี้ย การที่ผู้ให้กู้เอาที่นานั้นแจ้งการครอบครองแบบ ส.ค.1 ว่าเป็นของตนเสียนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
ผู้ให้กู้รับมอบนาพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นประกันหนี้และทำต่างดอกเบี้ยโดยตกลงกันเองมิได้ทำให้ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการประกันด้วยทรัพย์ ย่อมไม่มีผลทำให้เกิดทรัพย์สิทธิเหนือนาพิพาทอันจะทำให้มีอำนาจยึดหน่วงนาพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241 วรรคสอง ผู้ให้กู้ต้องคืนนาพิพาทให้ผู้กู้
ผู้กู้เป็นโจทก์ฟ้องผู้ให้กู้ขอให้รับชำระหนี้ 280 บาทและคืนที่นาที่มอบไว้เป็นประกันและทำต่างดอกเบี้ยตามสัญญาที่ทำกันเอง ผู้ให้กู้ให้การว่า หนี้มีจำนวน 1,000 บาท แต่ไม่ได้ฟ้องแย้งเข้ามา ศาลคงบังคับให้ผู้กู้ชำระหนี้เท่าที่กล่าวในฟ้อง ส่วนจำนวนหนี้ยังค้างอยู่เป็นเรื่องที่ผู้ให้กู้จะต้องไปว่ากล่าวเอากับผู้กู้เพื่อให้ชำระจนสิ้นเชิงในฐานะเจ้าหนี้สามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 เป็นอีกเรื่องต่างหาก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ 8-9 ปีมานี้ โจทก์ทำสัญญากู้เงินจำเลย 280 บาท มอบที่นาพิพาทให้จำเลยทำต่างดอกเบี้ย แต่โจทก์คงใช้สิทธิครอบครองแจ้งการครอบครองเป็นชื่อของโจทก์และเสียเงินค่าบำรุงท้องที่ทุกปีมา ระหว่างเดือนมีนาคม 2504 โจทก์ขอไถ่นาพิพาทจำเลยไม่ยอม ขอให้บังคับจำเลยรับเงิน 280 บาท และคืนนาพิพาทให้โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์กู้เงินจำเลย 1,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี กำหนดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยในวันที่ 1 มีนาคม 2493แต่จำเลยไม่มีเงินชำระ ได้ยกที่นาพิพาทให้จำเลย จำเลยได้เข้าครอบครองเป็นเจ้าของและในปี พ.ศ. 2498 ได้แจ้งการครอบครองและเสียภาษีที่ดินเรื่อยมาเกิน 10 ปี คดีโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนนาพิพาทให้โจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังคงถือว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ตลอดมาและจำเลยยึดถือนาพิพาทในฐานะเป็นผู้แทน โจทก์ผู้เป็นเจ้าของคือ ในฐานะทำกินต่างดอกเบี้ย จึงเห็นว่า การที่จำเลยแจ้งการครอบครองนาพิพาทตามแบบ ส.ค.1 ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ฉะนั้น แม้จำเลยจะครอบครองช้านานเพียงไรก็ไม่เกิดสิทธิประการใดขึ้น โจทก์มีสิทธิเรียกนาพิพาทคืนได้ คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ และเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยรับมอบนาพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นประกันหนี้และทำต่างดอกเบี้ยโดยตกลงกันเองมิได้ทำให้ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการประกันด้วยทรัพย์ เช่นนี้ จึงไม่มีผลทำให้เกิดทรัพย์สิทธิเหนือนาพิพาท อันจะทำให้มีอำนาจยึดหน่วงนาพิพาทต่อไปได้ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 241วรรคสอง จำเลยต้องคืนนาให้โจทก์ และให้โจทก์ชำระเงิน 280 บาท ให้จำเลยส่วนที่จำเลยโต้เถียงว่า หนี้มีจำนวน 1,000 บาท แต่ไม่ได้ฟ้องแย้งเข้ามา จึงเห็นว่าจำนวนหนี้ยังค้างอยู่เท่าใด เป็นเรื่องที่จำเลยจะไปว่ากล่าวเอากับโจทก์เพื่อให้ชำระจนสิ้นเชิง ในฐานะเจ้าหนี้สามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก พิพากษาแก้ให้โจทก์จ่ายเงิน 280 บาทแก่จำเลยด้วย นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share