คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4490/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาทให้แก่ ส. แทนโจทก์ไป และตอบคำถามค้านทนายโจทก์ว่าจำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้ ส. เลย เช่นนี้พอถือได้ว่าโจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่าเงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้ ส. นั้น เป็น เงิน ของโจทก์แล้วโจทก์จึงนำสืบภายหลังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเพื่อให้ส. สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้ หาเป็นการต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 230,000 บาทตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยร่วมกันเข้าหุ้นทำบ่อทราย จำเลยออกเช็คให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันว่าจำเลยตกลงเข้าหุ้นด้วย ต่อมาจำเลยได้ออกเงินเข้าหุ้นแทนเช็คพิพาทแก่โจทก์ ถือว่าโจทก์ได้รับเงินแทนเช็คพิพาทแล้ว ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 32,243.83 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินอีก 200,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์รับฟังมาโดยจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้งว่า จำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เพื่อลงทุนร่วมกันดำเนินกิจการขุดทรายขาย คดีคงมีปัญหามาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยได้ปฏิบัติการอันถือว่าได้ชำระหนี้ตามเช็คพิพาทนั้นแล้วหรือไม่ซึ่งจำเลยนำสืบว่า จำเลยได้สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน 200,000 บาทตามเอกสารหมาย ล.1 เป็นค่ามัดจำที่โจทก์ซื้อที่ดินจากนาวาอากาศโทสุบงค์ นอกจากนี้จำเลยยังได้จ่ายเงินดาวน์รถยนต์เก๋งซึ่งโจทก์เป็นผู้เช่าซื้อแทนโจทก์อีก 40,000 บาท จำเลยจึงชำระหนี้ค่าลงทุนตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์แล้ว เห็นว่า พยานหลักฐานของจำเลยที่นำสืบมาไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยมอบเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เมื่อใด คงได้ความจากคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยหน้าที่ 6 ว่า จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เมื่อเดือนมีนาคม 2523 แต่โดยเหตุที่หนังสือสัญญาขายที่ดิน ซึ่งจำเลยชำระเงินค่ามัดจำ 200,000 บาท ให้แก่นาวาโทสุบงค์ ตามเอกสารหมาย ล.3นั้นทำขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2523 ดังนั้น หากเงินมัดจำจำนวนนี้เป็นเงินของจำเลยจริงแล้ว ต่อมาในเดือนมีนาคม 2523จำเลยก็น่าจะชำระหนี้ที่เหลือแก่โจทก์เพียง 30,000 บาท เท่านั้นหาใช่สั่งจ่ายเช็คพิพาทที่มีจำนวนเงินถึง 230,000 บาท ให้แก่โจทก์ไป ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้จึงน่าเชื่อว่าเมื่อจำเลยชำระค่ามัดจำซื้อที่ดินให้แก่นาวาอากาศโทสุบงค์เป็นเช็คจำนวนเงิน200,000 บาทไป แต่จำเลยไม่มีเงินในบัญชี โจทก์จึงสั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน 200,000 บาท ไปเข้าบัญชีของจำเลยดังที่โจทก์นำสืบถือได้ว่าเงินค่ามัดจำที่ดินดังกล่าวเป็นเงินของโจทก์ หาใช่ของจำเลยไม่ เหตุผลที่สนับสนุนในเรื่องนี้อีกข้อหนึ่งก็คือ หลังจากทำหนังสือสัญญาขายที่ดินตามเอกสารหมาย ล.3 แล้วปรากฏว่าที่ดินที่นาวาอากาศโทสุบงค์นำมาขายเป็นของนาวาอากาศเอกนาวิน เปี่ยมสุวรรณ ดังนั้น นาวาอากาศโทสุบงค์จึงได้คืนเงินมัดจำ 200,000 บาท โดยจ่ายเป็นเช็คขีดคร่อมระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับตามเอกสารหมาย ล.4 พร้อมทั้งคืนหนังสือสัญญาขายที่ดินตามเอกสารหมาย จ.5 ให้แก่โจทก์ ต่อมาปรากฏว่าเช็คหมาย ล.4 นี้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีอาญาแก่นาวาอากาศโทสุบงค์ นาวาอากาศโทสุบงค์ได้มีหนังสือขอผ่อนผันชำระหนี้ ปรากฏตามสำเนาท้ายเอกสารหมาย ล.4ซึ่งถ้าหากเงินมัดจำค่าที่ดิน 200,000 บาท เป็นเงินของจำเลยจริงแล้ว นาวาอากาศโทสุบงค์ต้องคืนเงินค่ามัดจำดังกล่าวให้แก่จำเลยแทนที่จะคืนให้โจทก์อย่างแน่นอน ทั้งจำเลยจะต้องโต้แย้งการที่นาวาอากาศโทสุบงค์ คืนเงินมัดจำนั้นให้โจทก์ด้วย แต่จำเลยก็หาได้กระทำไม่ ที่จำเลยฎีกาว่าเมื่อจำเลยเบิกความว่าได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่ามัดจำซื้อที่ดิน 200,000 บาท ให้แก่นาวาอากาศโทสุบงค์แทนโจทก์ไปโจทก์ไม่ได้ถามด้านในเรื่องนี้ไว้การที่โจทก์นำสืบในภายหลังว่า โจทก์ได้สั่งจ่ายเช็คจำนวนเงิน200,000 บาท ให้จำเลยนำเข้าบัญชีของจำเลยเพื่อให้นาวาอากาศโทสุบงค์สามารถนำเช็คของจำเลยมารับเงินได้ จึงต้องห้ามมิให้รับฟังตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89นั้น ปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยตอบคำถามค้านของทนายโจทก์ว่า จำเลยไม่เคยได้รับเงินจากโจทก์ให้ไปซื้อที่ดินนี้ และว่าโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินค่าซื้อที่ดินบ่อทรายดังกล่าวให้นาวาอากาศโทสุบงค์เลย ดังนี้พอถือได้ว่า โจทก์ได้ถามค้านจำเลยในเรื่องที่ว่า เงินที่จ่ายตามเช็คของจำเลยให้นาวาอากาศโทสุบงค์เป็นค่ามัดจำซื้อที่ดินนั้นเป็นเงินของโจทก์แล้ว โจทก์จึงนำสืบในเรื่องดังกล่าวได้ ด้วยเหตุผลดังได้วินิจฉัยมา ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เงินตามเช็คนี้จำเลยสั่งจ่ายให้แก่นาวาอากาศโทสุบงค์เป็นค่ามัดจำซื้อที่ดินจำนวน 200,000บาทนั้น เป็นเงินของโจทก์ และยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามเช็คพิพาทในจำนวนเงินดังกล่าว”
พิพากษายืน

Share