คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4481/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การวินิจฉัยปัญหาว่าโจทก์ทั้งสี่อุทธรณ์คัดค้านการประเมินหรือเพียงแต่อุทธรณ์เนื้อหาของหนังสือตอบข้อหารือของโจทก์ทั้งสี่ ศาลจะต้องรับฟังเจตนาและพฤติการณ์ของโจทก์ทั้งสี่และจำเลยว่า ยอมรับคำอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสี่เป็นการอุทธรณ์การประเมินที่ถูกต้องแล้วหรือไม่เพื่อประกอบการตีความเนื้อหาของเอกสารดังกล่าว อุทธรณ์ข้อนี้เป็นปัญหาข้อเท็จจริงนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย จึงถือว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แม้จำเลยจะให้การไว้ แต่เมื่อศาลภาษีอากรกลางชี้สองสถาน โดยไม่กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทและจำเลยไม่คัดค้านใน 7 วัน นับแต่วันที่ศาลภาษีอากรกลางชี้สองสถาน ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 183 วรรคสาม ถือว่าสละประเด็นดังกล่าว ทั้งศาลภาษีไม่ได้วินิจฉัย ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาโดยชอบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีฯ มาตรา 29 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่รับวินิจฉัย
การโอนที่ดินให้บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายโดยไม่มีค่าตอบแทน แม้ทำภายใน 5 ปี นับแต่ได้มาถือเป็นการขายก็ตาม แต่ไม่ใช่เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร โจทก์ทั้งสี่จึงไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามการประเมิน และแม้จากการตรวจสอบจะพบว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 เคยชำระภาษีธุรกิจเฉพาะนั้น ก็ไม่เป็นเหตุให้การโอนที่ดินดังกล่าวเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินภาษีธุรกิจเฉพาะ เงินเพิ่ม เบี้ยปรับและภาษีส่วนท้องถิ่น เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และงดหรือลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ให้จำเลยคืนเงินภาษีที่โจทก์ทั้งสี่ได้ชำระไปแล้วทั้งหมดคืนพร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินตามหนังสือแจ้งการประเมินภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ. 73.1) เลขที่ 01003140-25461204-006-00357 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2546 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์เลขที่ สภ.1 (อธ.2)/204/2547 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2547 ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดให้เป็นพับ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า โจทก์ทั้งสี่ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินว่าชอบหรือไม่ชอบ เพราะเหตุใดตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร แต่เป็นการอุทธรณ์โต้แย้งในเนื้อหาของหนังสือหารือของโจทก์ทั้งสี่ และหนังสือตอบข้อหารือของกรมสรรพากร จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์นั้น ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นว่า ในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าว ศาลจะต้องรับฟังเจตนาและพฤติการณ์ของโจทก์ทั้งสี่และจำเลยว่า ยอมรับคำอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสี่ เป็นการอุทธรณ์การประเมินที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ เพื่อประกอบการตีความเนื้อหาของเอกสารดังกล่าวอุทธรณ์ข้อนี้เป็นปัญหาข้อเท็จจริงนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายจึงถือว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ดังนั้นแม้จำเลยจะให้การต่อสู้ในประเด็นดังกล่าวไว้ แต่เมื่อศาลภาษีอากรกลางชี้สองสถาน โดยไม่ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาท ตามที่จำเลยให้การดังกล่าว จำเลยก็ไม่คัดค้านภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ศาลภาษีอากรกลางกำหนดประเด็นข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 วรรคสาม ดังนี้ ถือว่าจำเลยสละประเด็นข้อพิพาทดังกล่าวแล้ว ทั้งศาลภาษีอากรกลางไม่ได้วินิจฉัยประเด็นดังกล่าวในคำพิพากษา ข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยกล่าวในคำอุทธรณ์ดังกล่าวจึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลภาษีอากรกลาง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 29 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่รับวินิจฉัย
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า การโอนอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ทั้งสี่ให้บิดาเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไรซึ่งต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะหรือไม่ เห็นว่า การที่โจทก์ปลูกสร้างทาวน์เฮ้าส์ 4 คูหา บนที่ดินของบิดาโจทก์ ต่อมาจดทะเบียนยกทาวน์เฮ้าส์ดังกล่าวให้แก่บิดานั้น แม้จะถือว่าเป็นการขายตามมาตรา 91/1 (4) แห่งประมวลรัษฎากรที่ได้กระทำภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ที่โจทก์ทั้งสี่โอนกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้โดยเสน่หาแก่ผู้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ทั้งสี่ และเป็นการโอนโดยไม่มีค่าตอบแทน มิใช่เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร โจทก์ทั้งสี่จึงไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามการประเมิน การตรวจสอบพบว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 เคยชำระภาษีธุรกิจเฉพาะนั้นไม่เป็นเหตุให้การโอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แก่บิดาของโจทก์ทั้งสี่เป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นทางค้าหรือหากำไร ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ.

Share