คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การให้กรรมสิทธิที่ดินจะให้กันโดยปากเปล่าไม่มีผล
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1379 เป็นเรื่องการโอนการครอบครอง ไม่ใช่เรื่องสละสิทธิในส่วนได้ในที่ดิน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินโดยกล่าวว่า ที่พิพาทเดิมเป็นของนางสอน นางงิ้ว ตกลทอดมาถึงโจทก์และพวกญาติต่างปกครองเป็นการส่วนสัด ต่อมาตกลงกันให้นาง ก. เป็นผู้นำรังวัดออกโฉนดใส่ชื่อ นางก. และ อ. เมื่อนาง ก.ตายแล้ว อ.ได้ดำเนินการถอนชื่อนาง ก.ออกเหลือแต่ อ.คนเดียว แล้วยื่นคำร้องขอแบ่งแยกให้โจทก์และนายเชื่อมต่อไป ซึ่งความเหล่านี้จำเลยไม่ปฏิเสธ แต่ต่อสู้ว่าโจทก์ได้สละสิทธิในที่รายนี้แล้ว
ศาลจังหวัดสิงหบุรี เห็นว่า โจทก์ไม่ยอมช่วยจำเลยที่ ๑ เมื่อเป็นความกับผู้อื่น และไม่คัดค้านการประกาศรับมรดกทั้ง ๒ ครั้งเป็นการสละสิทธิอยู่ในตัว ที่ อ.และจำเลยประกาศจะแบ่งแยกก็เป็นเพียงตั้งใจ การยกให้ยังไม่สำเร็จ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์พูดด้วยปากยังไม่ใช่สละมรดกไม่ต้องด้วย ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๖๑๒ ที่ไม่คัดค้านเพราะ อ.และจำเลยที่ ๑ ยินดีแบ่งให้โจทก์เสมอมา และฟังว่า นาง ก.ปกครองที่ดินแทนโจทก์ ส่วนแปลงของนายเชื่อมที่ว่ายกให้โจทก์ พยานยังฟังไม่เป็นความจริงไม่ได้ พิพากษาแก้ให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินให้โจทก์ ๒ แถว และเนื้อที่ ๒๐ ไร่เศษ ยกที่ขอส่วนของนายเชื่อม
จำเลยฎีกาว่า การสละสิทธิเพีงแสดงเจรนาตามมาตรา ๑๓๗๙ ก็พอ
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์สละสิทธิเท่ากับยอมรับว่าโจทก์มีสิทธิในที่รายนี้จริง แต่ข้อที่จำเลยว่าโจทก์สละสิทธิฟังไม่ขึ้น เพราะแม้จะถือตามจำเลยฎีกาว่าไม่ใช่เป็ฯการสละมรดกตาม ป.ม.แพ่งมาตรา ๑๖๑๒ ดังศาลอุทธรณ์ว่าก็เป็นการให้กรรมสิทธิในที่ดิน จะให้กันโดยปากเปล่าไม่มีผล กรณีไม่เข้า ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๑๓๗๙ ซึ่งเป็นเรื่องการโอนการครอบครอง หาใช่เป็นเรื่องสละสิทธิในส่วนได้ในที่ดินดังเช่นในคดีนี้ไม่
พิพากษายืน

Share