แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นำเงินตราออกนอกประเทสโดยไม่ได้รับอนุญาตเงินตราไม่ใช่ของอันจะต้องเสียอากรตาม พ.ร.บ.พิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2489
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบังอาจนำและพาเงินตราและเงินตราต่างประเทศอันเป็นของต้องห้ามและต้องจำกัดออกนอกราช อาณาจักรไทย โดยเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร โดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การรับสารภาพ คู่ความไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเงินตราไม่ใช่ของตามความหมายแห่ง พ.ร.บ. ศุลกากรที่โจทก์ขอคงผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๔, ๘, ๙ เงินตราของกลางจำเลยมีติดตัวเพื่อใช้จ่ายเป็นค่าเดินทางไม่มากมายนักจึงไม่ควรริบ คำขอเรื่องเงินรางวัลเมื่อไม่ผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ก็จ่ายให้ไม่ได้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าของขาออกอันจะต้องเสียอากรตาม พ.ร.บ. พิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๔๘๙ นั้นปรากฎว่ามีอยู่ ๓๑ ประเภท ในประเภท ๑ ถึง ๓๐ ระบุชื่อของไว้ชัดเจน ส่วนประเภทที่ ๓๑ ใช้คำว่า “ของอื่น ๆ ทั้งสิ้น” นั้นเห็นว่าต้องหมายความถึงของอันอาจนำไปจำหน่ายเป็นสินค้าได้ตามธรรมดาเท่านั้น เงินตราจึงไม่อยู่ในคำว่า ของ อื่น ๆ นี้และยิ่งเมื่อได้พิเคราะห์ดูบทบัญญัติอื่น ๆ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากรเช่นการตีราคาก็ให้ถือเอาราคาขายส่งเป็นเงินสดเป็นต้น ก็ยิ่งสนับสนุนให้เห็นเช่นนั้น ถ้ากฎหมายประสงค์ถึงเงินตราด้วย ก็คงระบุไว้ชัดเจน
จึงพิพากษายืน