คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4471/2551

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ที่ดินของโจทก์และจำเลยเป็นที่ดินจัดสรรของหมู่บ้านตั้งอยู่ติดกัน หมู่บ้านจัดระบบระบายน้ำเสียเป็นรูปตัวยูล้อมรอบที่ดินแต่ละแปลงเชื่อมต่อกันทุกแปลงให้ไหลลงสู่คลองโคกสาร ท่อระบายน้ำบ้านจำเลยจัดสร้างให้ผ่านที่ดินของโจทก์อยู่เดิมตั้งแต่สร้างหมู่บ้าน การใช้ท่อระบายน้ำดังกล่าวระหว่างผู้ที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันไม่ทำให้ตกเป็นภาระจำยอม การที่โจทก์ยินยอมให้จำเลยทำท่อระบายน้ำผ่านในที่ดินของโจทก์ขึ้นมาใหม่ก็เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำเสียแทนท่อระบายน้ำเดิมซึ่งอุดตัน เมื่อท่อระบายน้ำเดิมมิได้ตกเป็นภาระจำยอมของจำเลย ท่อระบายน้ำที่ทำขึ้นมาใหม่ก็หาตกเป็นภาระจำยอมแก่จำเลยไม่ ทั้งในการทำท่อระบายน้ำดังกล่าวจำเลยต้องขออนุญาตจากโจทก์ แสดงให้เห็นว่าจำเลยเองไม่มีสิทธิในที่ดินของโจทก์ที่จะทำท่อระบายน้ำโดยพลการ อีกทั้งจำเลยเริ่มทำท่อระบายน้ำใหม่ในที่ดินของโจทก์เมื่อกลางเดือนกันยายน 2541 คำนวณถึงวันที่จำเลยฟ้องแย้งยังไม่ครบ 10 ปี จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ภาระจำยอมในท่อระบายน้ำใหม่โดยอายุความตาม ป.พ.พ. มาตรา 1401 ประกอบ มาตรา 1382

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์พบว่าจำเลยขุดเจาะกำแพงแนวกั้นเขตที่ดินดังกล่าวเพื่อขุดฝั่งท่อระบายน้ำเสีย และทำบ่อพักน้ำเสียถาวรในที่ดินของโจทก์เพื่อระบายน้ำเสียจากบ้านของจำเลยไหลลงสู่ท่อระบายน้ำสู่บ่อพักน้ำเสียที่จำเลยทำขึ้นในที่ดินของโจทก์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2542 ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 50,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนท่อระบายน้ำและบ่อพักน้ำเสียออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 34140 ตำบลบางโคล่ (บางขวาง) อำเภอบางคอแหลม (บางรัก) กรุงเทพมหานคร และจัดทำที่ดินของโจทก์ให้มีสภาพเรียบร้อยเหมือนเดิม ให้จำเลยซ่อมแซมรั้วอิฐบล็อกที่กั้นเป็นแนวเขตระหว่างที่ดินของโจทก์กับที่ดินของจำเลย ให้ใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 5,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะรื้อถอนท่อระบายน้ำและบ่อพักน้ำเสียออกจากที่ดินของโจทก์เสร็จสิ้น ซ่อมแซมรั้วอิฐบล๊อกและจัดที่ดินของโจทก์ให้มีสภาพเรียบร้อยเหมือนเดิม
จำเลยให้การและฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องและพิพากษาให้โจทก์จดทะเบียนทางระบายน้ำเป็นภาระจำยอม หากโจทก์ไม่ยินยอมให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนา และถ้าไม่เป็นภาระจำยอมให้ศาลมีคำสั่งเป็นทางจำเป็นเพื่อให้จำเลยใช้ทางระบายน้ำเสียลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ
โจทก์ให้การฟ้องแย้งว่า หมู่บ้านวางท่อระบายน้ำผ่านที่ดินด้านข้างของแต่ละแปลงเท่านั้น การจัดทำถนนเหนือใต้ของกรุงเทพมหานครได้ทำท่อระบายน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ไว้บริเวณฟุตบาทเพื่อให้เป็นทางระบายน้ำทดลองบางโคล่สารเดิม ส่วนทางระบายน้ำของหมู่บ้านยังใช้ทางเดิมเชื่อมต่อกับทางระบายน้ำสาธารณะที่ทำขึ้นใหม่ โจทก์ไม่เคยตกลงกับจำเลยว่าจะให้ทำท่อระบายน้ำและไม่ยินยอมให้จำเลยทำท่อระบายน้ำผ่านที่ดินของโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องและฟ้องแย้ง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองให้เป็นพับ
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ ยกอุทธรณ์ของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลอุทธรณ์ทั้งหมดแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 34140 ตำบลบางโคล่ (บางขวาง) อำเภอบางคอแหลม (บางรัก) กรุงเทพมหานคร ส่วนจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 34141 ตำบลบางโคล่ (บางขวาง) อำเภอบางคอแหลม (บางรัก) กรุงเทพมหานคร ที่ดินของโจทก์ทางด้านตะวันออกติดกับที่ดินของจำเลยมีกำแพงอิฐบล็อกกั้นแนวเขต ที่ดินของโจทก์และจำเลยเป็นที่ดินจัดสรรของหมู่บ้านจันทร์เจริญ ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวได้จัดทำระบบท่อระบายน้ำทิ้งเป็นรูปตัวยูล้อมรอบที่ดินของแต่ละแปลงเชื่อมต่อกันทุกแปลงเพื่อให้ไหลลงสู่คลองบางโคล่สาร ต่อมาปี 2538 กรุงเทพมหานครเวนคืนที่ดินของโจทก์บางส่วนและถมคลองบางโคล่สาร เพื่อทำเป็นถนนเหนือใต้ กรุงเทพมหานครได้ทำท่อระบายน้ำสาธารณะผ่านหน้าที่ดินของโจทก์ ภายหลังท่อระบายน้ำในที่ดินของโจทก์อุดตันทำให้ท่อระบายน้ำในที่ดินของจำเลยที่เชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำของโจทก์ไม่สามารถระบายน้ำออกได้ โจทก์ยินยอมให้จำเลยเข้าทำท่อระบายน้ำใหม่ผ่านที่ดินของโจทก์
มีประเด็นต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ท่อระบายน้ำที่จำเลยทำขึ้นใหม่ผ่านที่ดินของโจทก์เป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของจำเลยหรือไม่ เห็นว่า ที่ดินของโจทก์และจำเลยเป็นที่ดินจัดสรรของหมู่บ้านจันทร์เจริญเก่า ซึ่งในการทำระบบระบายน้ำเสียทิ้งได้ทำเป็นรูปตัวยูล้อมรอบที่ดินของแต่ละแปลงเชื่อมต่อกันทุกแปลงเพื่อให้ไหลลงสู่คลองบางโคล่สาร ดังนั้น การใช้ท่อระบายน้ำดังกล่าวระหว่างผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ทำให้ตกเป็นภาระจำยอมแต่อย่างใด การที่โจทก์ยินยอมให้จำเลยทำท่อระบายน้ำผ่านในที่ดินของโจทก์ขึ้นใหม่ก็เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำเสียแทนท่อระบายน้ำเดิมซึ่งอุดตัน ซึ่งท่อระบายน้ำเดิมมิได้ตกเป็นทางภาระจำเลยของจำเลยท่อระบายน้ำที่ทำขึ้นมาใหม่ก็หาตกเป็นภาระจำยอมแก่จำเลยแต่อย่างใดไม่ ในการทำท่อระบายน้ำดังกล่าวจำเลยต้องขออนุญาตทำจากโจทก์ แสดงให้เห็นว่าจำเลยเองไม่มีสิทธิในที่ดินของโจทก์ที่จะทำท่อระบายน้ำดังกล่าวอีกทั้งจำเลยได้เริ่มทำท่อระบายน้ำในที่ดินของโจทก์เมื่อกลางเดือนกันยายน 2541 เมื่อคำนวณถึงวันที่จำเลยฟ้องแย้งไม่ครบ 10 ปีแต่อย่างใด ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ที่จำเลยฎีกาว่า สิทธิในการได้ภาระจำยอมและทางจำเป็นมีลักษณะเหมือนกัน นั้น เห็นว่า แม้จะเป็นจริงดังที่จำเลยกล่าวอ้างก็ตามแต่สิทธิในภาระจำยอมก็มีข้อแตกต่างจากทางจำเป็น กล่าวคือทางจำเป็นจะเกิดขึ้นได้เฉพาะใช้เป็นทางเข้าออกของผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินที่ถูกล้อมรอบเท่านั้น มิได้รวมถึงการวางท่อระบายน้ำแต่อย่างใด ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share