คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 447/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับภรรยาโต้เถียงกัน แล้วจำเลยใช้ไม้ไผ่ซึ่งมีขนาดโตกว่า หัวแม่มือนิดหน่อย ยาวประมาณ 1 วา ตีภรรยาแต่ตีหนักมือไป ทำให้พลาดไปถูกนางบุญลืมซึ่งภรรยาของจำเลยยืนเกาะหลังอยู่ถึงแก่ความตาย เมื่อภรรยาจำเลยหนีไปแล้ว จำเลยก็มิได้ตีซ้ำอีก ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยกระทำโดยไม่รู้สำนึกในการกระทำและมิได้ ประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลว่านางบุญลืมอาจถึงแก่ความตาย เพราะการกระทำของจำเลยได้จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2508 จำเลยบังอาจใช้ไม้ไผ่กลมโตขนาดด้ามไม้กวาด ยาวประมาณ 1 วา เป็นอาวุธตีนางสังวาลย์ ภรรยาของจำเลยซึ่งแอบนางบุญลืม สุภัคคะ อยู่แต่จำเลยได้ตีพลาดไปถูกนางบุญลืมหลายแห่ง เป็นเหตุให้นางบุญลืมได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและถึงแก่ความตายในวันนั้นเอง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 60 และริบไม้ไผ่ของกลาง

จำเลยให้การว่า จำเลยตีนางสังวาลย์ภรรยาของจำเลยจริงแต่ไม้ที่ตีไม่ได้ถูกนางบุญลืม นางบุญลืมตายเพราะเป็นลม และต่อสู้ว่าตำรวจรถไฟไม่มีอำนาจสอบสวนคดีนี้

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยใช้ไม้ไผ่ของกลางตีนางสังวาลย์และไม้ที่ตีถูกนางบุญลืม นางบุญลืมตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกตีจริงดังโจทก์ฟ้องและฟังว่าที่ที่เกิดเหตุคดีนี้อยู่ในเขตของการรถไฟ ตำรวจรถไฟมีอำนาจสอบสวนคดีนี้ได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมาณกฎหมายอาญา มาตรา 288, 60 ให้จำคุกจำเลยไว้ 15 ปี ริบไม้ไผ่ของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 7 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง

ศาลฎีกาเห็นว่าสาเหตุในเบื้องต้น เนื่องจากจำเลยกับนางสังวาลย์สามีภรรยาโต้เถียงกันเรื่องกล้วยที่เก็บไว้ในที่พักได้หายไป จำเลยเกิดโมโห จึงใช้ไม้ตีนางสังวาลย์แต่ตีหนักมือไป จึงทำให้ถูกนางบุญลืมในขณะที่นางสังวาลย์เกาะหลังอยู่ถึงแก่ความตายไม่ปรากฏว่านางสังวาลย์และนางบุญลืมมีสาเหตุอันใดกับจำเลยมาก่อน ที่แสดงให้เห็นว่าให้ถึงแก่ความตายประกอบกับไม้ไผ่ที่จำเลยใช้ตีปรากฏตามคำร้อยตำรวจโทวัลลภพนักงานสอบสวนพยานโจทก์ว่าโตกว่าหัวแม่มือนิดหน่อย และดูตามภาพถ่ายที่โจทก์ส่งศาลก็ไม่ใหญ่โตนักเมื่อนางสังวาลย์หนีไปแล้ว จำเลยก็มิได้ตีนางบุญลืมซ้ำอีก เหตุต่าง ๆ เหล่านี้บ่งชี้ให้เห็นว่าจำเลยกระทำโดยไม่รู้สำนึกในการกระทำและมิได้ประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลว่านางบุญลืมอาจถึงแก่ความตายเพราะการกระทำของจำเลยได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยจึงพิพากษายืน

Share