คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4460/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นสอบถามคำให้การจำเลยโดยยังไม่ได้สอบถามเรื่องทนายความเสียก่อน แม้กระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้นจะไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 173 แต่ในวันสืบพยานโจทก์นัดแรกจำเลยได้แต่งทนายความเข้ามาว่าต่างให้และทนายความของจำเลยยังแก้ต่างให้จำเลยทุกนัดจนเสร็จคดี จำเลยจึงมีทนายความดำเนินคดีให้แล้ว กรณีไม่มีเหตุจำเป็นที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 208 (2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ , ๖๖
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษา ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๓ วรรคสอง แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า ข้อหาที่โจทก์ฟ้องมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิต ศาลชั้นต้นย่อมมีหน้าที่ต้องสอบถามจำเลยเกี่ยวกับทนายความเสียก่อนตามมาตรา ๑๗๓ จะด่วนไปสอบถามคำให้การจำเลยทั้งที่ยังไม่ได้สอบถามเรื่องทนายความย่อมเป็นการไม่ชอบ การที่ศาลชั้นต้นสอบถามคำให้การจำเลยโดยจำเลยยังไม่มีทนายความไม่มีผลผูกพันจำเลย ต้องถือเสมือนหนึ่งว่าจำเลยยังมิได้ให้การตามที่ศาลสอบถามและบันทึกไว้ อย่างไรก็ดี แม้กระบวนการพิจารณาของศาลชั้นต้นในเรื่องดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ตาม แต่ปรากฏว่าในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๔๒ อันเป็นวันสืบพยานโจทก์นัดแรกจำเลยได้แต่งทนายความเข้ามาว่าต่างให้ ยิ่งกว่านั้นทนายความของจำเลยยังแก้ต่างให้จำเลยทุกนัดจนเสร็จคดี กรณีไม่มีเหตุอันสมควรที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๐๘ (๒) แต่ประการใด เพราะจำเลยมีทนายความมาช่วยเหลือในการดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการใหม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๖ ให้ศาลอุทธรณ์ภาค ๖ พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share