คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4457/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนว่ามิได้เจตนาทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งและยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างอุทธรณ์ ดังนี้ คดีของผู้ร้องยังไม่ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จึงยังไม่มีเหตุจะพิจารณาให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างอุทธรณ์

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ขอให้ศาลสั่งถอนการยึด ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องเสียค่าขึ้นศาลให้ครบ ผู้ร้องไม่นำค่าขึ้นศาลมาชำระ ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งว่าผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าไม่ทราบคำสั่งศาลมาก่อน ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องไต่สวน แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ที่ผู้ร้องอุทธรณ์ขอให้ถอนการยึดทรัพย์พิพาท ศาลยังมิได้มีคำสั่งรับอุทธรณ์ คดีไม่มีเหตุสมควรให้งดการขายหรือจำหน่ายทรัพย์พิพาทระหว่างอุทธรณ์ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ร้องฎีกาขอให้งดการขายหรือจำหน่ายทรัพย์พิพาทไว้ก่อนนั้น เห็นว่า เป็นการร้องขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แต่ผู้ร้องทิ้งอุทธรณ์ศาลจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดี ผู้ร้องขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนว่ามิได้เจตนาทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้ยกคำร้องของผูร้องอีก ดังนั้น คดีของผู้ร้องจึงยังไม่ขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จึงยังไม่มีเหตุจะพิจารณาให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างอุทธรณ์
พิพากษายืน

Share