แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
หนังสือมอบอำนาจให้ ฟ้องคดีไม่จำต้องระบุบุคคลที่ต้องถูกฟ้องโดยเฉพาะเจาะจงว่าเป็นจำเลยทั้งสองหรือผู้ใดแม้หนังสือมอบอำนาจจะไม่ได้ระบุว่ามอบอำนาจให้ฟ้องจำเลยทั้งสองแต่ก็มีข้อความระบุไว้แล้วว่าโจทก์มอบอำนาจให้ พ. เป็นโจทก์ฟ้องคดีต่อศาลในทางแพ่งเพื่อเรียกร้องทวงคืนซึ่งทรัพย์สินฯลฯรวมทั้งการบังคับจำนองแทนและในนามของโจทก์ พ. จึงมี อำนาจฟ้องคดีจำเลยทั้งสองแทนโจทก์ได้
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชำระหนี้ ตามสัญญา บัญชีเดินสะพัด และ ขอให้ บังคับจำนอง เอา แก่ ทรัพย์สิน ที่จำนอง เป็น ประกัน
จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ว่า ผู้มอบอำนาจ มิได้ มี การ มอบอำนาจ ให้ ฟ้องคดี นี้ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ชำระ เงิน จำนวน1,086,838.69 บาท ให้ แก่ โจทก์ พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ16.5 ต่อ ปี ใน ต้นเงิน ดังกล่าว นับ ตั้งแต่ วันที่ 23 มีนาคม 2534เป็นต้น ไป จนกว่า ชำระ เสร็จ หาก จำเลย ทั้ง สอง ไม่ชำระ ก็ ให้ โจทก์ยึดทรัพย์สิน โฉนด ที่ดิน เลขที่ 24100, 24101, 24102, 24103, 24104และ 29534 ตำบล ทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัด ตรัง พร้อม สิ่งปลูกสร้าง ออก ขายทอดตลาด หาก ได้ เงิน จาก การ ขายทอดตลาดไม่พอ ชำระหนี้ ก็ ให้ ยึดทรัพย์สิน อื่น ของ จำเลย ทั้ง สอง ออก ขายทอดตลาดชำระหนี้ ให้ โจทก์ จน ครบถ้วน และ ให้ จำเลย ทั้ง สอง ร่วมกัน ใช้ค่าฤชาธรรมเนียม แทน โจทก์ โดย กำหนด ค่า ทนายความ ให้ 3,000 บาท
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลย ทั้ง สอง ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “หนังสือมอบอำนาจ ให้ ฟ้องคดี ไม่จำต้อง ระบุบุคคล ที่ ต้อง ถูก ฟ้อง โดยเฉพาะ เจาะจง ว่า เป็น จำเลย ทั้ง สอง หรือ ผู้ใดแม้ หนังสือมอบอำนาจ จะ ไม่ได้ ระบุ ว่า มอบอำนาจ ให้ ฟ้อง จำเลย ทั้ง สองแต่ ก็ มี ข้อความ ระบุ ไว้ แล้ว ว่า โจทก์ มอบอำนาจ ให้ นาย พัฒน์ ตรงคมาลี เป็น โจทก์ ฟ้องคดี ต่อ ศาล ใน ทางแพ่ง เพื่อ เรียกร้อง ทวง คืนซึ่ง ทรัพย์สิน ฯลฯ รวมทั้ง การ บังคับจำนอง แทน และ ใน นาม ของ โจทก์นาย พัฒน์ จึง มีอำนาจ ฟ้องคดี จำเลย ทั้ง สอง แทน โจทก์ ได้ ”
พิพากษายืน