คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีภรรยาจดทะเบียนหย่ากันและทำหนังสือกำหนดข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สินและบุตรไว้ ณ อำเภอ ข้อตกลงเกี่ยวกับบุตรเขียนไว้ในบันทึกว่า บุตร 4 คน อยู่ในความอุปการะของภรรยา ดังนี้สามีชอบที่จะนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างตามคำให้การของตนได้ว่า คำว่า อุปการะที่เขียนไว้นั้น ตนคัดค้านแล้วปลัดอำเภอผู้เขียนชี้แจงว่าไม่ใช่อำนาจปกครองอยู่แก่ภรรยาเป็นแต่ให้ภรรยาช่วยอุปการะในฐานะเป็นมารดาเท่านั้น ตนจึงได้ยินยอมรวมทั้งพฤติการณ์ที่แสดงความหมายแห่งข้อตกลงซึ่งสามียกขึ้นต่อสู้ไว้ว่า เป็นแต่ตกลงให้ภรรยาช่วยอุปการะเลี้ยงดูบุตรเท่านั้นด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากัน มีบุตรด้วยกัน 4 คน ต่อมาโจทก์จำเลยได้ตกลงหย่าขาดจากกันโดยจดทะเบียนหย่าและทำหนังสือกำหนดข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สินและบุตรไว้ที่อำเภอให้บุตร 4 คนนี้อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของโจทก์ หลังจากนั้นจำเลยได้ขอรับบุตร 4 คนไปอยู่กับจำเลยชั่วคราว โจทก์ก็ยินยอมภายหลังโจทก์ขอรับบุตรคืนจำเลยไม่ยอมให้ ซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิเอาบุตร 4 คนนี้ไว้ได้ตามข้อตกลง โจทก์ลอบไปรับบุตรมาอยู่กับโจทก์แล้ว 3 คน เหลือแต่เด็กหญิงอุษา ขอให้บังคับจำเลยส่งให้แก่โจทก์

จำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้หย่ากันและตกลงแบ่งทรัพย์สินกันจริงแต่บุตรทั้ง 4 คนนั้นไม่ได้ตกลงให้อยู่ในอำนาจปกครองของโจทก์เป็นแต่ตกลงให้โจทก์ช่วยอุปการะเลี้ยงดูตามหน้าที่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1536 เท่านั้น เมื่อปลัดอำเภอเขียนบันทึกว่าบุตรทั้ง 4 คน อยู่ในความอุปการะของนางสังวาลย์ จำเลยได้คัดค้านแล้ว ปลัดอำเภอชี้แจงว่า ไม่ใช่อำนาจปกครองอยู่แก่โจทก์ เป็นแต่ให้โจทก์ช่วยอุปการะในฐานะเป็นมารดาเท่านั้น จำเลยจึงยินยอม จำเลยยังถือว่าอำนาจปกครองเป็นของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

ในวันนัดพร้อม จำเลยแถลงจะขอสืบถึงเจตนาในบันทึกของอำเภอแต่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายแล้ววินิจฉัยว่า ข้อความในบันทึกนี้ได้ความชัดเจนแล้วว่า โจทก์จำเลยตกลงให้บุตรทั้ง 4 คน อยู่ในความอุปการะของโจทก์ ซึ่งหมายความถึงอำนาจปกครองบุตรนั่นเองจำเลยไม่มีอำนาจปกครอง จะขอนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารไม่ได้ พิพากษาให้จำเลยส่งเด็กหญิงอุษาแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานของคู่ความในข้อเจตนาของจำเลยแล้วพิพากษาใหม่

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า บันทึกข้อตกลงในการปกครองมิได้ใช้คำว่าปกครอง แต่ใช้คำว่าอุปการะ จะมีความหมายให้อำนาจปกครองอยู่แก่โจทก์หรือไม่ เป็นการตีความหมายของเอกสารจำเลยกล่าวอ้างไว้แล้วว่า คำว่า อุปการะ ที่เขียนไว้นั้น จำเลยคัดค้านแล้ว ปลัดอำเภอชี้แจงว่าไม่ใช่อำนาจปกครองอยู่แก่โจทก์ เป็นแต่ให้โจทก์ช่วยอุปการะในฐานะเป็นมารดาเท่านั้น จำเลยจึงได้ยินยอม จำเลยชอบที่จะนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างนี้ รวมทั้งพฤติการณ์ที่แสดงความหมายแห่งข้อตกลงซึ่งจำเลยยกขึ้นต่อสู้นี้ด้วยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 พิพากษายืน

Share