คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไม่ทราบว่าโจทก์ฟ้องเพราะย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในที่กันดารห่างไกล จึงไม่ได้ต่อสู้คดี ความจริงจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ไม่ได้พิมพ์ลายมือในสัญญากู้ ศาลพิจารณาคดีโจทก์ฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีดังนี้ เท่ากับจำเลยกล่าวแสดงเหตุผลละเอียดชัดแจ้งแล้วว่า ถ้าจำเลยได้ต่อสู้คดีสืบพยานจำเลยก็อาจชนะคดีโดยศาลอาจฟังว่าจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดถึงเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 แล้ว

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้และดอกเบี้ยจากจำเลย ศาลประกาศทางหนังสือพิมพ์แทนการส่งหมายให้จำเลยแก้คดีและกำหนดวันนัดสืบพยาน จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์
ก่อนรับคำบังคับของศาล จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ อ้างว่าจำเลยไม่เคยกู้เงินโจทก์ ไม่เคยพิมพ์ลายนิ้วมือในสัญญากู้จำเลยย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในที่กันดารไม่ทราบประกาศของศาล ฯลฯ ขอให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำร้องของจำเลยมิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินของศาล ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้รับคำขอของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้คำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยก็ได้กล่าวแล้วว่า จำเลยไม่ได้ทราบว่าโจทก์ฟ้อง เพราะย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในที่กันดาร ห่างไกล จึงไม่ได้ต่อสู้คดี ความจริงจำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ ไม่ได้พิมพ์ลายมือในสัญญากู้ ศาลพิจารณาคดีของโจทก์ฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ ก็เท่ากับจำเลยกล่าวแสดงเหตุผลละเอียดชัดแจ้งแล้วว่า ถ้าจำเลยให้ต่อสู้คดีสืบพยาน จำเลยก็อาจชนะคดี โดยศาลจะฟังว่า จำเลยไม่ได้กู้เงินโจทก์ ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งถึงเหตุที่ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินของศาลตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๐๘ พิพากษายืน.

Share