แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะเรื่องดอกเบี้ย เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามสัญญากู้
จำเลยให้การว่าไม่เคยกู้เงินโจทก์ สัญญากู้ที่นำมาฟ้องเป็นเอกสารปลอม โจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยนานถึง ๗ ปี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีแก่โจทก์นับแต่วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๒๐ จนถึงวันฟ้องคิดดอกเบี้ยให้ไม่เกิน ๑๐,๕๐๐ บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับถัดวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินต้น ๑๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีถึงวันฟ้องเป็นเวลา ๕ ปีแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าคดีนี้มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะเรื่องดอกเบี้ยซึ่งเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ วรรคแรก ตามฎีกาของจำเลยเมื่อได้พิจารณาแล้ว ปรากฏว่าเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดุลพินิจของศาลล่างทั้งสองซึ่งฟังต้องกันมาว่า จำเลยได้กู้เงินจากโจทก์ไปจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท และค้างชำระดอกเบี้ยตามฟ้อง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงพึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว จึงไม่รับฎีกาของจำเลย
พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้แก่จำเลยทั้งหมด