แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สมคบกันไปชิงทรัพย์ คนหนึ่งฆ่าเจ้าทรัพย์เพื่อจะเอาทรัพย์ แต่เอาไปไม่ได้จำเลยคนที่ฆ่าเจ้าทรัพย์มีผิดตาม ม.250(5) ส่วนจำเลยอีกคนหนึ่งมีผิดเพียง ม.300 ตอน 3 และ ม.60โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 2 สมคบกันไปชิงทรัพย์ จำเลยคนหนึ่งฆ่าเจ้าทรัพย์เพื่อที่จะเอาทรัพย์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 2 ตาม ม.250 (5) ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยอีกคนหนึ่งมีผิดเพียงฐานพยายามชิงทรัพย์ ศาลจะลงโทษฐานพยายามชิงทรัพย์ได้ หรือไม่
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยทั้ง ๒ ได้เดินทางตามผู้ตายไปเพื่อชิงทรัพย์ พ.จำเลยได้ใช้มีดฟันผู้ตายเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการชิงทรัพย์ แต่เอาทรัพย์ไปไม่ได้ ในเวลานั้น ล.จำเลยก็อยู่ที่นั่นด้วยแต่ไม่ได้ลงมือ แล้วได้พากันหนีไป ผู้ตายตายเพราะแผลถูกทำร้าย โจทก์อ้างบทขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๒๕๐(๕)
ศาลชั้นต้นลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้ง ๒ ตาม ม.๒๕๐(๕)
ศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษ ล.จำเลยตาม ม.๓๐๐ ตอน ๓ กับ ม.๖๐ จำคุก ๑๐ ปี
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยสมคบกันมาเพื่อชิงทรัพย์จริง
ส่วนฎีกาโจทก์ที่ว่า ล.จำเลยควรมีผิดฐานเป็นตัวการฆ่าคนตายโดยเจตนามีโทษเท่ากับ พ.นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยมีเจตนามาชิงทรัพย์ในการชิงทรัพย์นี้มีคนตายขึ้น แต่ ล.มิได้ลงมือฆ่า บทมาตรา ๓๐๐ จึงเป็นบทควรวางแก่ความผิด จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์