คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เฉพาะเรือยนต์หางยาวเช่นเรือยนต์หางยาวของกลางคดีนี้เป็นเรือที่รู้จักกันอยู่ทั่วไปว่าเป็นเรือเล็ก ๆ ไม่ใหญ่โตชนิดหนึ่งใช้วิ่งรับส่งในแม่น้ำลำคลอง โดยข้อเท็จจริงไม่มีทางจะฟังว่าเป็นเรือมีระวางบรรทุกเกิน 250 ตันได้เลย ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่รับรู้กันอยู่ทั่วไปดังกล่าว ถึงแม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องว่า มีระวางบรรทุกเท่าใด ศาลย่อมรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่าเรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่องของกลางคดีนี้ มีระวางบรรทุกไม่เกิน 250 ตัน เมื่อจำเลยนำไปใช้ในการขนของที่ยังมิได้เสียภาษี จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 32
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2509).

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง จำเลยรับสารภาพ ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันนำถังน้ำมันใส่เรือหางยาวข้ามจากสุวรรณเขต ประเทศลาวเข้ามายังตำบลมุกดาหาร ประเทศไทย โดยเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร และเจตนาฉ้อค่าภาษีของรัฐบาล จับจำเลยได้พร้อมด้วยถังน้ำมันและเรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่อง ๑ ลำ ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ ; (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา ๖,๑๗,๑๖ ; (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๓ ลดรับสารภาพ ปรับจำเลยที่ ๑ เป็นเงิน ๒๗๐ บาท ริบถังน้ำมัน แต่เรือยนต์หางยาวตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีระวางบรรทุกเท่าใด ไม่ริบจำเลยที่ ๒ อายุไม่เกิน ๑๔ ปี ว่ากล่าวตักเตือนแล้วปล่อยตัวไป
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบเรือหางยาวพร้อมด้วยเครื่องยนต์ของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เฉพาะเรือยนต์หางยาวเช่นเรือยนต์หางยาวของกลางคดีนี้ เป็นเรือที่รู้จักกันอยู่ทั่วไปว่าเป็นเรือเล็ก ๆ ไม่ใหญ่โตชนิดหนึ่งซึ่งใช้วิ่งรับส่งในแม่น้ำลำคลอง โดยข้อเท็จจริงไม่มีทางที่จะฟังว่าเป็นเรือที่มีระวางบรรทุกเกิน ๒๕๐ ตันได้เลย ฉะนั้น เมื่อข้อเท็จจริงเป็นที่รับรู้กันอยู่ทั่วไปดังกล่าว ถึงแม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้องว่ามีระวางบรรทุกเท่าใด ศาลย่อมมีอำนาจรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า เรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่องของกลางในคดีนี้มีระวางบรรทุกไม่เกิน ๒๕๐ ตัน เมื่อจำเลยนำไปใช้ในการขนของที่ยังมิได้เสียภาษี จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๓๒
พิพากษาแก้ ให้ริบเรือยนต์หางยาวพร้อมด้วยเครื่องยนต์ของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามเดิมทุกประการ

Share