คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 435/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง จำเลยและผู้เสียหายมิได้วิวาทกันจำเลยใช้มีดดายหญ้ายาวประมาณ 1 ศอกเศษฟันผู้เสียหาย 2 แผล แผลแรกถูกที่ใบหน้าเป็นแผลยาว 11 เซนติเมตร ผู้เสียหายล้มลงจำเลยยังฟันซ้ำเป็นแผลที่สองถูกที่ศีรษะด้านหลังตัดใบหูซ้ายมาถึงเหนือมุมปากซ้ายบาดแผลยาว 17 เซนติเมตร กระดูกคางหักเช่นนี้ เป็นการเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะฟันตรงไหน และจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าอาจทำให้ถึงตายได้จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 297, 80 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 288, 80, 72 จำคุกจำเลย 5 ปี จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 297 จำคุกจำเลย 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า เช่นนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288, 80 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดหัวตัดสำหรับดายหญ้า ยาวประมาณ ๑ ศอกฟันผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๙๗, ๘๐ และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายแต่ผู้เสียหายได้ข่มเหงจำเลยจนมิอาจทนได้ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นเหตุบันดาลโทสะ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ วางโทษจำคุก ๑๐ ปี ด้วยเหตุบันดาลโทสะตามมาตรา ๗๒ ให้ลงโทษจำคุกจำเลย ๕ ปี มีดของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ จำคุก ๓ ปี คำรับของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๒ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่า
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพฤติการณ์ของจำเลยที่ใช้มีดดายหญ้ายาวประมาณ ๑ ศอกเศษฟันผู้เสียหาย ถูกใบหน้าและศีรษะด้านหลังตัดใบหูซ้ายมาถึงเหนือมุมปากซ้ายเป็นแผลยาวถึง ๑๑ เซนติเมตร และ๑๗ เซนติเมตร ตามลำดับแผลที่สองรุนแรงถึงกระดูกคางหักขณะผู้เสียหายยืนพูดจาโต้ตอบอยู่ ในสถานที่ซึ่งมีแสงไฟสว่างมองเห็นกัน มิได้วิวาทกันเป็นการเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะฟันตรงไหน และการที่จำเลยฟันผู้เสียหายถูกที่หน้าล้มลงแล้ว จำเลยยังฟันซ้ำอีกที่ศีรษะใกล้คออันเป็นอวัยวะสำคัญแพทย์ก็ลงความเห็นว่าบาดแผลดังกล่าวอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้ ดังนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าอาจทำให้ถึงตายได้ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ ซึ่งศาลฎีกาเห็นควรวางโทษขั้นต่ำ จำคุก ๑๐ ปี คำรับของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาล ให้ลดโทษให้จำเลย ๑ ใน ๓ คงเหลือจำคุก ๖ ปี ๘ เดือน แต่คดีนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะ จึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยลดแล้วเหลือ ๕ ปี โจทก์มิได้อุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้กระทำโดยบันดาลโทสะและมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยให้หนักขึ้น ฉะนั้น ศาลฎีกาจะพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยให้หนักกว่านี้หาได้ไม่
พิพากษาแก้ เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ คงให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๕ ปี ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share