คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4344/2536

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 259 ให้นำบทบัญญัติลักษณะ 2 แห่งภาค 4 ว่าด้วยการบังคับแก่วิธีการชั่วคราวที่ศาลสั่งตามที่กล่าวไว้ในลักษณะ 1 โดยอนุโลมเมื่อโจทก์เป็นผู้ดำเนินการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา ถือได้ว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างอื่น ตามมาตรา 149 แล้ว แม้ว่าต่อมา โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และโจทก์ไม่ได้รับประโยชน์จากการยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่ บัญญัติไว้ในตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ในกรณีที่ยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินจำนวน 5,000 บาทไว้เพื่อเป็นประกันค่าเสียหายในการที่มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา แม้จำเลยมิได้รับความเสียหายก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีกรณีที่ยึดแล้วไม่มีขายจำนวน 20,370บาท และศาลชั้นต้นได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์นำเงินดังกล่าวมาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งโจทก์ได้ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วแต่ก็มิได้นำเงินมาชำระ เช่นนี้ ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจที่จะไม่คืนเงินที่โจทก์วางไว้เป็นประกัน จำนวน5,000 บาท ให้แก่โจทก์จนกว่าโจทก์จะนำเงินค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีจำนวน 20,370 บาท มาชำระแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ และถ้าหากในที่สุดโจทก์ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีมาชำระและไม่มีทรัพย์สินที่จะยึดมาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลชั้นต้นย่อมเบิกเงินจำนวน 5,000 บาท มาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีได้

ย่อยาว

มูลกรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องหย่าจำเลย และขอแบ่งสินสมรสก่อนจำเลยยื่นคำให้การโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยึดและอายัดทรัพย์สินสมรสก่อนมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินสมรสตามคำร้องขอไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาโดยให้โจทก์วางเงินประกัน 5,000 บาท โจทก์วางเงินประกันตามคำสั่งศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นออกหมายยึดทรัพย์ชั่วคราว และโจทก์ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวแล้วระหว่างพิจารณาโจทก์จำเลยประนีประนอมยอมความกัน ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์2535 ต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม 2535 โจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินประกันที่โจทก์วางไว้ต่อศาลดังกล่าวคืน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ซึ่งโจทก์กับจำเลยยอมความกันแล้วโจทก์จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีเสียก่อน จึงยังไม่อนุญาตให้คืนเงินประกันจำนวนนี้ ยกคำแถลงและให้โจทก์มาดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อไปภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง แจ้งคำสั่งให้โจทก์ทราบไม่มีผู้รับให้ปิด โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่ากรณียึดหรืออายัดชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 259 ซึ่งอยู่ในภาค 4 ลักษณะ 1 ที่ว่าด้วยวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาบัญญัติว่า ให้นำบทบัญญัติลักษณะ 2 แห่งภาคนี้ว่าด้วยการบังคับคดีมาใช้บังคับแก่วิธีการชั่วคราวที่ศาลสั่งตามที่กล่าวไว้ในลักษณะนี้โดยอนุโลม ตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ากรณีที่มีการยึดหรืออายัดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาก็ต้องถือปฏิบัติเช่นเดียวกับกรณีที่มีการยึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่บัญญัติไว้ในตาราง 5ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคแรก บัญญัติว่าค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างอื่นตามที่ระบุไว้ในตารางท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้นให้คู่ความผู้ดำเนินกระบวนพิจารณานั้น ๆ เป็นผู้ชำระ ดังนั้นเมื่อโจทก์เป็นผู้ดำเนินการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาถือได้ว่าโจทก์ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างอื่นตามมาตรานี้แล้วแม้ว่าต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน และโจทก์ไม่ได้รับประโยชน์จากการยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา โจทก์ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีตามที่บัญญัติไว้ในตาราง 5 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งกรณีที่ยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขายจะต้องเสียร้อยละ 3 ครึ่งของราคาทรัพย์ที่ยึด ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่า เงินค่าประกันเสียหายจำนวน5,000 บาท ที่โจทก์วางศาลตามคำสั่งศาลชั้นต้น เป็นเงินประกันสำหรับค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยอาจได้รับความเสียหาย เมื่อการยึดทรัพย์รายนี้มิได้ก่อความเสียหายแก่จำเลย ศาลชั้นต้นจึงต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้โจทก์นั้น เห็นว่า แม้เงินจำนวนดังกล่าวศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์วางไว้เพื่อประกันค่าเสียหายในการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษาและจำเลยมิได้รับความเสียหายก็ตามแต่เมื่อโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีดังที่กล่าวมาแล้วเป็นเงินจำนวน 20,370 บาท และศาลชั้นต้นได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์นำเงินจำนวนดังกล่าวมาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายในกำหนด 30 วันนับแต่วันทราบคำสั่ง ซึ่งโจทก์ได้ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้วแต่ก็มิได้นำเงินมาชำระ เช่นนี้ ศาลชั้นต้นก็มีอำนาจที่จะไม่คืนเงินที่โจทก์วางไว้เป็นประกันค่าเสียหายจำนวน 5,000 บาทให้แก่โจทก์จนกว่า โจทก์จะนำเงินค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีจำนวน 20,370 บาท มาชำระแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ ทั้งนี้ถ้าหากในที่สุดโจทก์ไม่นำเงินค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีมาชำระและไม่มีทรัพย์สินที่จะยึดมาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลชั้นต้นจะได้เบิกเงินจำนวน 5,000 บาท มาชำระค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน”
พิพากษายืน

Share