แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คืนเกิดเหตุจำเลยกับผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน ครั้นเวลา 21 นาฬิกาเศษ จำเลยเดินตามหาผู้ตายในบริเวณงานวัด เห็นผู้ตายพูดคุยกับทหารพรานไม่ทราบชื่อในลักษณะสนิทสนมกันมาก และจำเลยเคยทราบข่าวว่าผู้ตายกับทหารพรานผู้นี้ไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง จำเลยจึงกลับบ้านและดื่มสุราจนเวลา 1 นาฬิกาเศษจำเลยไปขุดเอาอาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งมีกระสุนปืนบรรจุอยู่ในลำกล้อง 1 นัด ที่จำเลยฝังไว้หลังบ้านมาเหน็บไว้ที่เอว เวลา3 นาฬิกาเศษ ผู้ตายกลับมาบ้าน จำเลยเปิดประตูออกไปและจับมือผู้ตายลากไปในสวนหลังบ้าน สอบถามผู้ตายถึงการไปเที่ยวกับผู้ชายเมื่อผู้ตายปฏิเสธ จำเลยกอดคอผู้ตายแล้ว ใช้อาวุธปืนจ่อยิงถูกบริเวณเหนือราวนมซ้าย 1 นัด ผู้ตายทรุดลงคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ผู้ตายยังไม่ตายทันที จำเลยชักมีดพกปลายแหลมจากเอวแทงที่บริเวณคอผู้ตายอีกหลายครั้ง เมื่อผู้ตายตายแล้ว จำเลยไปเอาจอบที่บ้านมาขุดหลุมฝังไว้ที่เกิดเหตุ เช่นนี้แม้จำเลยจะกระทำต่อผู้ตายเพราะจำเลยโกรธเคืองที่ผู้ตายไปเที่ยวกับชายอื่นก็ตามแต่จำเลยกระทำต่อผู้ตายภายหลังที่จำเลยกลับมาบ้านเป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยจำเลยดื่มสุราเตรียมหาเชือกไว้สำหรับมัดมือผู้ตายและหาอาวุธปืนกับมีมีดพกปลายแหลมไว้สำหรับยิงแทงผู้ตาย พฤติการณ์ชี้ให้เห็นว่าจำเลยกระทำต่อผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงและใช้มีดพกปลายแหลมแทงทำร้ายร่างกายนางอรนันต์ จองศักดิ์หรือสโมทานทวี โดยเจตนาฆ่าและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นเหตุให้นางอรนันต์ ถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ริบปลอกมีด 1 ปลอกเชือกไนลอน 1 เส้น และซองใส่อาวุธปืน 1 ซอง ของกลาง ส่วนของกลางอื่นให้คืนเจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) วางโทษประหารชีวิต คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ริบปลอกมีด1 ปลอก เชือกไนลอน 1 เส้น ซองใส่อาวุธปืน 1 ซอง ของกลางส่วนของกลางอื่นให้คืนแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้จากคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยว่า คืนเกิดเหตุเวลา 21 นาฬิกาเศษ จำเลยเดินตามหาผู้ตายในบริเวณงานวัดห้วยโก เห็นผู้ตายพูดคุยกับทหารพรานไม่ทราบชื่อในลักษณะสนิทสนมกันมาก และจำเลยเคยทราบข่าวว่าผู้ตายกับทหารพรานผู้นี้เคยไปเที่ยวที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและที่อื่น ๆ ด้วยกันหลายครั้ง จำเลยจึงกลับบ้านและดื่มสุราจนเวลา1 นาฬิกาเศษ จำเลยไปขุดเอาอาวุธปืนลูกซองสั้นซึ่งมีกระสุนปืนบรรจุอยู่ในลำกล้อง 1 นัด ที่จำเลยฝังไว้หลังบ้านมาเหน็บไว้ที่เอวเวลา 3 นาฬิกาเศษ ผู้ตายกลับมาบ้าน จำเลยเปิดประตูออกไปและจับมือผู้ตายลากไปหลังบ้านแล้วใช้เชือกซึ่งจำเลยเตรียมไว้ก่อนแล้วผูกมัดมือผู้ตายลากไปในสวนหลังบ้าน สอบถามผู้ตายถึงการไปเที่ยวกับผู้ชาย เมื่อผู้ตายปฏิเสธ จำเลยกอดคอผู้ตายแล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงถูกบริเวณเหนือราวนมซ้าย 1 นัด ผู้ตายทรุดลงคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ผู้ตายยังไม่ตายทันที จำเลยชักมีดพกปลายแหลมจากเอวแทงที่บริเวณคอผู้ตายอีกหลายครั้ง เมื่อผู้ตายตายแล้ว จำเลยไปเอาจอบที่บ้านมาขุดหลุมฝังไว้ที่เกิดเหตุเช่นนี้ แม้จำเลยจะกระทำต่อผู้ตายเพราะจำเลยโกรธเคืองที่ผู้ตายไปเที่ยวกับชายอื่นก็ตาม แต่จำเลยกระทำต่อผู้ตายภายหลังที่จำเลยกลับมาบ้านเป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยจำเลยดื่มสุราเตรียมหาเชือกไว้สำหรับมัดมือผู้ตายและหาอาวุธปืนกับมีมีดพกปลายแหลมไว้สำหรับยิงและแทงผู้ตาย ตามพฤติการณ์ชี้ให้เห็นว่า จำเลยกระทำต่อผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พิพากษายืน