แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุดระบุว่า กรณีใดมิได้ตราไว้ในข้อบังคับนี้ ให้นำบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.อาคารชุด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 รวมถึงกฎหมายอาคารชุดที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมในภายหน้า ตลอดจนบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับ เมื่อ พ.ร.บ.อาคารชุดมิได้มีบทบัญญัติให้มีการขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมอันผิดระเบียบไว้จึงต้องวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 4 ซึ่งกรณีนี้ได้แก่มาตรา 1176 และมาตรา 1195 เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า การมอบฉันทะให้ อ. ซึ่งเป็นบุคคลต้องห้ามที่จะรับมอบฉันทะให้ออกเสียงแทนเจ้าของร่วมเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนเป็นการไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ.2522 มาตรา 47 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) จึงเป็นกรณีที่การประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมเป็นการประชุมซึ่งมีบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของร่วมเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อ ป.พ.พ. มาตรา 1176 การประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมและการลงมติของที่ประชุมดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย มติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมย่อมเสียไปทั้งหมด หาใช่มีผลเพียงไม่นับการออกเสียงลงคะแนนของ อ. เป็นองค์ประชุมและคะแนนที่จะใช้ลงมติไม่
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันลงมติตาม ป.พ.พ. มาตรา 4 ประกอบมาตรา 1195 เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทำคำฟ้องมายื่นใหม่แทนคำร้องเดิม การนับกำหนดเวลาตาม ป.พ.พ. มาตรา 4 ประกอบมาตรา 1195 ต้องนับถึงวันยื่นคำร้องเดิม มิใช่วันยื่นคำฟ้องที่ทำมายื่นใหม่ตามคำสั่งศาล คำฟ้องของโจทก์จึงอยู่ในกำหนดเวลาตามกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า การประชุมใหญ่วิสามัญของเจ้าของร่วมอาคารชุดริเวอร์ เฮเว่น เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 เป็นการประชุมใหญ่ผิดกฎหมายและผิดข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุดริเวอร์ เฮเว่น ให้มติใดที่เกิดขึ้นจากการประชุมใหญ่ไม่มีผลบังคับโจทก์และเจ้าของร่วมทั้งหลาย และขอให้ห้ามจำเลยทั้งสองนำรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญของเจ้าของร่วมวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 ไปจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร กับขอให้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครดำเนินการระงับการจดทะเบียนกรรมการตามมติที่ประชุมใหญ่ของเจ้าของร่วมอาคารชุดริเวอร์เฮเว่น ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2552
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้องโจทก์ (ที่ถูก ยกฟ้องโจทก์)ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายพร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกา แม้ศาลชั้นต้นจะมิได้สั่งอนุญาต แต่การที่จำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้วไม่คัดค้านและศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งสำนวนไปยังศาลฎีกา พอแปลได้ว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ วรรคหนึ่ง แล้ว
คดีมีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่าการประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 เป็นการประชุมและลงมติที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุดริเวอร์ ระบุว่า กรณีใดมิได้ตราไว้ในข้อบังคับนี้ ให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติอาคารชุด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 รวมถึงกฎหมายอาคารชุดที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมในภายหน้า ตลอดจนบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับ ดังนี้ เมื่อพระราชบัญญัติอาคารชุดมิได้มีบทบัญญัติให้มีการขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมอันผิดระเบียบไว้ จึงต้องวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 ซึ่งกรณีนี้ได้แก่มาตรา 1176 และมาตรา 1195 เมื่อข้อเท็จจริงคดีนี้รับฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า การมอบฉันทะให้นายอภิชัยซึ่งเป็นบุคคลต้องห้ามที่จะรับมอบฉันทะให้ออกเสียงแทนเจ้าของร่วมเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนเป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ.2522 มาตรา 47 วรรคสอง (ที่แก้ไขใหม่) จึงเป็นกรณีที่การประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 เป็นการประชุมซึ่งมีบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของร่วมเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1176 การประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมและการลงมติของที่ประชุมดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย มติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 ย่อมเสียไปทั้งหมด หาใช่ไม่มีผลเพียงไม่นับการออกเสียงลงคะแนนของนายอภิชัยเป็นองค์ประชุมและคะแนนที่จะใช้ลงมติดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไม่ อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
ส่วนคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองที่ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากไม่ได้ยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันลงมติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 ประกอบมาตรา 1195 เพราะโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 ในวันดังกล่าวศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องว่า “พระราชบัญญัติอาคารชุด พุทธศักราช 2522 มาตรา 59 ให้นำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 22 หุ้นส่วนและบริษัท หมวด 5 การชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด มาใช้แก่การชำระบัญชีของนิติบุคคลอาคารชุดโดยอนุโลมเท่านั้น มิได้บัญญัติให้นำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1195 มาใช้ และกรณีตามคำร้องฉบับนี้ถือว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิของผู้ร้องซึ่งจะต้องยื่นฟ้องเป็นคดีมีข้อพิพาท จึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องจัดทำคำฟ้องมายื่นต่อศาลภายใน 7 วัน” และเมื่อปรากฏว่าโจทก์ทำคำฟ้องมายื่นต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 ภายในกำหนดเวลา 7 วัน ตามคำสั่งศาลชั้นต้น และศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำฟ้องว่า”โจทก์จัดทำคำฟ้องมาเสนอต่อศาลภายในกำหนด และมีคำสั่งรับคำฟ้อง” จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำคำฟ้องมายื่นใหม่แทนคำร้องเดิม การนับกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 ประกอบมาตรา 1195 ต้องนับถึงวันยื่นคำร้องเดิม มิใช่วันยื่นคำฟ้องที่ทำมายื่นใหม่ตามคำสั่งศาล คำฟ้องของโจทก์จึงอยู่ในกำหนดเวลาตามกฎหมายที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมานั้นชอบแล้ว แต่ที่โจทก์มีคำขอให้ศาลมีคำสั่งให้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครระงับการจดทะเบียนกรรมการตามมติที่ประชุมใหญ่ของเจ้าของร่วมอาคารชุดริเวอร์ เฮเว่น ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 นั้น เมื่อโจทก์ไม่ได้ฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินและสำนักงานที่ดินเป็นจำเลยด้วยจึงเป็นการบังคับบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นคู่ความในคดีศาลไม่อาจบังคับให้ได้ ให้ยกคำขอในส่วนนี้
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญของเจ้าของร่วมอาคารชุดริเวอร์ เฮเว่น เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 ห้ามจำเลยทั้งสองนำรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมอาคารชุดริเวอร์ เฮเว่น ในวันดังกล่าวไปจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร ยกคำขอให้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครระงับการจดทะเบียนกรรมการตามมติที่ประชุมใหญ่ของเจ้าของร่วมอาคารชุดริเวอร์ เฮเว่น เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2552 ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ