คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4289/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยอ้างว่ามีสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือจึงรับฟังตามข้อต่อสู้ไม่ได้ เพราะ ป.พ.พ. มาตรา 851หมายความรวมถึงการต่อสู้คดีด้วยไม่ว่าจะมีการปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวแล้วหรือไม่ก็ตาม จำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกได้โอนมรดกเป็นของตนเอง เป็นการละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ และมีพฤติการณ์แสดงว่าจะจัดการมรดกไปในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทายาท อันมีเหตุที่จะถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการตามมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727 โจทก์ในฐานะทายาทจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิฟ้องขอให้ถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายอยู่เจ้ามรดกตาย มีทรัพย์มรดกคือที่ดินโฉนดเลขที่ 30868 กับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เลขที่ 62 และ 63 จำเลยได้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกไม่มีพินัยกรรมของผู้ตาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2528 ปรากฏตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 597/2528 ของศาลชั้นต้น หลังจากจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว จำเลยไม่ยอมแบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์กับทายาทเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2528 จำเลยโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 30868 เป็นของจำเลยแต่ผู้เดียวโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์และทายาทอื่นและนอกจากนี้จำเลยยังไม่ได้แบ่งปันที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์อีกจำนวน 2 แปลงดังกล่าวให้แก่ทายาท จึงขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 30868ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กลับมาเป็นทรัพย์มรดกของนายอยู่ตามเดิม กับให้จำเลยส่งมอบที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 62, 63 ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เข้าเป็นกองมรดกเพื่อแบ่งปันให้แก่โจทก์และทายาท หากจำเลยไม่ไปก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และให้ถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแล้วตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแทนจำเลยต่อไป
จำเลยให้การว่า ทรัพย์มรดกมีที่ดินแปลงเดียวคือที่ดินโฉนดเลขที่ 30868 โจทก์กับบรรดาพี่น้องทุกคนต่างยินยอมยกให้จำเลยโดยให้จำเลยจัดการศพผู้ตายเป็นการตอบแทน ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 62 ผู้ตายได้ขายให้นายแจ่ม โนใหม่ ไปตั้งแต่มีชีวิตอยู่ นายแจ่มได้ครอบครองทำประโยชน์จนถึงปัจจุบัน ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 63 ผู้ตายได้แบ่งให้บุตรบางส่วนและได้ขายให้นายแจ่มบางส่วนจนหมดทั้งแปลงแล้ว จึงไม่ใช่ทรัพย์มรดกไม่มีเหตุจะถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 30868 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมากลับเป็นทรัพย์มรดกของนายอยู่ผู้ตายตามเดิมกับให้จำเลยส่งมอบที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 62และเลขที่ 63 ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เข้าเป็นกองมรดกเพื่อแบ่งปันแก่โจทก์กับทายาท หากจำเลยไม่ยอมก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้ถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกและตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแทน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกตามฟ้องข้อ 2 ก.ข. และ ค. ให้โจทก์ 1 ใน 7 หากไม่ยอมแบ่งก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยส่วนคำขอให้ตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแทนจำเลยกับขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 30868 นั้นให้ยก นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยได้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือไปแล้ว ย่อมเป็นอันสมบูรณ์ โจทก์จะนำคดีมาฟ้องอีกไม่ได้นั้นเห็นว่า จำเลยเป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่ามีสัญญาประนีประนอมยอมความภาระการพิสูจน์จึงตกแก่จำเลย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา851 บัญญัติว่า “อันสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด หรือลายมือชื่อตัวแทนของฝ่ายนั้นเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่” ซึ่งหมายความรวมถึงการต่อสู้คดีด้วย เมื่อจำเลยต่อสู้คดีว่ามีสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกัน แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือตามบทกฎหมายดังกล่าว จึงรับฟังตามข้อต่อสู้ของจำเลยไม่ได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีการปฏิบัติตามสัญญาแล้วหรือไม่ก็ตาม…
ส่วนฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายนั้น เห็นว่า เมื่อศาลมีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายแล้ว ปรากฏว่าจำเลยได้โอนที่ดินโฉนดเลขที่ 30868 อันเป็นทรัพย์มรดกของผู้ตายเป็นของตนเอง เป็นการละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ และมีพฤติการณ์แสดงว่าจะจัดการทรัพย์มรดกของผู้ตายไปในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทายาทของผู้ตายอันเป็นเหตุที่สมควรจะถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 โจทก์ในฐานะทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดกได้ เมื่อปรากฏตามฟ้องว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เพื่อประโยชน์ของทายาททุกคน ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1718 จึงสมควรตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายอยู่ โนใหม่ผู้ตาย แทนจำเลย…
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ถอนจำเลยจากการเป็นผู้จัดการมรดกของนายอยู่ โนใหม่ ผู้ตาย แล้วตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแทนโดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ให้จำเลยไปจดทะเบียนเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 30868 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กลับคืนมาเป็นกองมรดกของผู้ตายตามเดิม ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ให้จำเลยส่งมอบที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 62 และ 63 ตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา…”
นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1.

Share