คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4287/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การพิจารณาว่าลูกหนี้ร่วมคนใดมีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่สามารถชำระหนี้ได้หรือมีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัวของลูกหนี้ร่วมแต่ละคน แม้ข้อเท็จจริงจะฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่เมื่อโจทก์นำสืบว่า จำเลยที่ 2 ต้องข้อสันนิษฐานว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวโดยจำเลยที่ 2 มิได้นำพยานเข้าสืบให้ศาลเห็นเป็นอย่างอื่นจึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 2 มีหนี้สินล้นพ้นตัว และการที่จำเลยที่ 1 มีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้แก่โจทก์ได้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุอื่นที่ไม่ควรให้จำเลยที่ 2 ล้มละลาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา จำเลยทั้งสองไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ ถือได้ว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย

จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 มีทรัพย์สินมากพอและสามารถชำระหนี้แก่โจทก์ได้ทั้งหมด ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ไม่ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “การพิจารณาว่าลูกหนี้ร่วมคนใดมีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่สามารถชำระหนี้ได้หรือไม่ หรือมีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่เป็นเรื่องเฉพาะตัวของลูกหนี้ร่วมแต่ละคนดังนั้น การที่ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีหนี้สินล้นพ้นตัว ย่อมเป็นเรื่องเฉพาะตัวของจำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์มีนายสมหมาย เมตตาทรัพย์ พนักงานสืบทรัพย์ลูกหนี้ของโจทก์มาเบิกความยืนยันว่านายสมหมายได้ตรวจสอบทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ที่สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาบางขุนเทียน สาขาบางกะปิ สาขาบางกอกน้อยและสาขาหนองแขมแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ตามรายงานการสืบทรัพย์เอกสารหมาย จ.8 และในชั้นพิจารณา จำเลยที่ 2 ไม่ยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จึงไม่มีข้อต่อสู้หรือข้อเท็จจริงที่จะนำมาวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 มีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้แก่โจทก์ได้ กรณีต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลยที่ 2 มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามมาตรา 8(5) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 เมื่อจำเลยที่ 2ไม่นำพยานเข้ามาสืบให้ศาลเห็นเป็นอย่างอื่นจึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 2 มีหนี้สินล้นพ้นตัว และการที่จำเลยที่ 1 มีทรัพย์สินพอที่จะชำระหนี้แก่โจทก์ได้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุอื่นที่ไม่ควรให้จำเลยที่ 2 ล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14”

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share