คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4283/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองติดตามไปพบกระบือผู้เสียหายที่ถูกลักไปแต่ไม่นำมาให้ผู้เสียหายหรือบอกให้ผู้เสียหายทราบตามที่ขอให้ช่วยเป็นเพียงปกปิดความจริงที่ควรบอกให้ผู้เสียหายทราบข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับกระบือไว้จากคนร้ายหรือเอากระบือที่พบไปไว้ที่อื่นก่อนหรือร่วมรู้กับคนร้ายมาเรียกค่าไถ่กระบือจากผู้เสียหายไม่มีความผิดฐานรับของโจร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันลักกระบือของผู้เสียหายหรือมิฉะนั้นก็ร่วมกันรับของโจรกระบือนั้นโดยเรียกค่าไถ่ในการคืนกระบือ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุกคนละ 2 ปี

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ ฟังว่าจำเลยที่ 2 ได้เรียกเงิน 3,000 บาท จากผู้เสียหายเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อผู้เสียหายตกลงจึงไปเอากระบือมาคืนให้ ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยรู้เห็นเป็นใจกับคนร้ายในการเรียกเงินค่าไถ่เพื่อจะนำกระบือมาให้ผู้เสียหาย ไม่มีความผิดฐานรับของโจร พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยทั้งสองซึ่งช่วยผู้เสียหายออกติดตามกระบือที่คนร้ายลักไป จำเลยทั้งสองพบกระบือแล้วไม่เอากระบือมาให้ผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 กลับมาเรียกเงินจากผู้เสียหาย 3,000 บาทเพื่อตอบแทนการที่จะนำกระบือกลับคืนมา เมื่อผู้เสียหายยินยอมจะให้เงินจำเลยทั้งสองจึงไปนำกระบือกลับคืนมาให้ผู้เสียหายนั้น การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการรับไว้ด้วยประการใดช่วยซ่อนเร้นทรัพย์ซึ่งได้มาโดยการกระทำผิดฐานลักทรัพย์จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานร่วมกันรับของโจรนั้น เห็นว่า การที่จำเลยทั้งสองไปพบกระบือผู้เสียหายแล้วไม่นำมาให้ผู้เสียหายหรือบอกให้ผู้เสียหายทราบถึงการพบกระบือ การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเป็นเพียงปกปิดความจริงที่ควรบอกให้ผู้เสียหายทราบ ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับกระบือไว้จากคนร้าย หรือเอากระบือที่พบไปไว้ที่อื่นก่อน หรือร่วมรู้กับคนร้ายมาเรียกทรัพย์จากผู้เสียหาย จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานรับของโจร

พิพากษายืน

Share