คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ส่งหมายให้พยานคนหนึ่งไม่ได้ เลยไม่ส่งให้พยานอื่นและไม่ยอมสืบตนเองเป็นพยานก่อนพยานปากอื่นยังไม่เป็นเหตุพอที่จะให้ศาลเลื่อนการพิจารณาไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่สวนจากตามแผนที่ท้ายฟ้องเฉพาะภายในเส้นสีแดงซึ่งตั้งอยู่ตำบลคลองน้อย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นของโจทก์ โจทก์ครอบครองมา 15 ปีเศษแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2494 โจทก์กับนางหนูพับ ภรรยาได้หย่ากันตามคำพิพากษาของศาล ในการหย่านั้นได้แบ่งสินสมรสระหว่างสามีภริยา ที่ดินที่ฟ้องนี้ตกได้กับโจทก์ ต่อมานางหนูพับได้ลักตัดยอดจากในที่สวนนี้ โจทก์ได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนเป็นคดีอาญาไว้ จำเลยได้กล่าวเท็จว่าสวนจากพิพาทเป็นของจำเลย ซึ่งเป็นการแย่งกรรมสิทธิ์ของโจทก์ กรมการอำเภอจึงสั่งให้โจทก์มาฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ จึงขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ อย่าให้จำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่รายนี้ต่อไป

จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลย

ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำสืบก่อน ในวันนัดสืบครั้งแรกโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าพยานสำคัญยังวางหมายไม่ได้ จะสืบพยานอื่นก่อน จำเลยก็จะเสียเปรียบ ทั้งทนายโจทก์ก็เจ็บตาด้วยศาลชั้นต้นสอบถามโจทก์ได้ความว่าโจทก์ส่งหมายให้นายอ่ำปลัดอำเภอซึ่งเป็นพยานสำคัญคู่กับพยานอื่น และเป็นผู้ไปชันสูตรรังวัดที่เมื่อโจทก์ซื้อ ไม่ได้ เพราะไม่พบตัว พยานอื่นโจทก์ก็เลยไม่ได้ส่งหมายให้ ข้อที่ว่าทนายป่วยตานั้น ทนายโจทก์ก็รับว่าพอจะว่าความได้ และศาลก็เห็นว่าตาของทนายโจทก์ปกติ ฝ่ายจำเลยคัดค้านไม่ให้เลื่อน อ้างว่าโจทก์แกล้งประวิงคดี ศาลชั้นต้นเห็นว่า การขอเลื่อนไม่มีเหตุสมควรเพียงพอ จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อน คงยอมจะให้โจทก์สืบตัวโจทก์ที่มาศาลแล้ว แต่โจทก์แถลงว่า เมื่อพยานอื่นไม่ได้เข้าเบิกความแล้วโจทก์ก็ไม่ขอเข้าสืบวันนี้ เอาไว้สืบพร้อมพยานอื่น ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน แต่โจทก์ไม่มีพยาน แม้ตัวโจทก์ก็ไม่เข้าเบิกความแล้วก็เป็นอันว่าโจทก์ไม่มีพยานสืบแสดงได้ จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมกับค่าทนาย 50 บาท แทนจำเลย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ขอเลื่อนเป็นครั้งแรก และคำแถลงขอเลื่อนอย่างน้อยก็มีมูลอยู่บ้าง จึงควรให้เลื่อนไปสักครั้งหนึ่งจึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยไปตามกระบวนวิธีพิจารณา แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2) ค่าธรรมเนียมให้เป็นพับไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาได้ประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว เห็นว่า ถึงแม้การที่โจทก์ขอเลื่อนคดีจะเป็นการขอเลื่อนครั้งแรกก็ดี แต่เหตุที่จะให้เลื่อนก็ต้องเป็นเหตุผลที่สมควรการที่โจทก์ไม่มีพยานมาศาลโดยโจทก์ไม่ได้วางหมายแก่พยาน เพราะคิดเอาเองว่าเมื่อวางหมายแก่นายอ่ำไม่ได้แล้วจะเรียกพยานอื่นมาสืบก่อน จำเลยจะเสียเปรียบจึงเลยไม่วางหมายแก่พยานอื่น ๆ เสียเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เหตุเท่าที่โจทก์อ้างไม่เป็นเหตุผลที่สมควรจะเลื่อนคดี นอกจากนั้นเมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีแล้ว แต่จะยอมให้โจทก์เข้าเบิกความเป็นพยานฝ่ายตนโจทก์ก็ไม่ยอมเข้าเบิกความเสียอีกดังนี้ ที่ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ไม่มีพยานสืบตามฟ้อง และพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ จึงเป็นการชอบแล้ว ศาลฎีกาไม่เห็นมีเหตุสมควรจะให้โจทก์เลื่อนคดีตามที่ขอ

จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้โจทก์ใช้ค่าทนายชั้นฎีกาแทนจำเลยอีก 50 บาท

Share