แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอหย่าขาดจากสามีภริยากับจำเลยๆ ต่อสู้ปฏิเสธเหตุหย่า มิได้ยกเอาอายุความขึ้นต่อสู้ไว้ แม้ภายหลังจำเลยจะยื่นคำร้องขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์เสียโดยอ้างว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความแล้ว ก็ดี คำร้องดังกล่าวก็มิใช่เป็นคำให้การเพิ่มเติม ศาลจึงจะยกเอาเรื่องอายุความขึ้นเป็นเหตุยกฟ้องโจทก์ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับจำเลย  และขอแบ่งสินสมรส
จำเลยปฏิเสธเหตุหย่า  และว่าโจทก์ไม่สินเดิม
ศาลชั้นต้นชี้สองสถานกะประเด็นให้โจทก์นำสืบก่อนต่อมา  จำเลยยื่นคำร้องว่า  โจทก์ฟ้องอ้างเหตุหย่าตาม  ป.ม.แพ่งฯมาตรา  ๑๕๐๐(๒) (๓) (๗)  แต่ปรากฎตามคำฟ้องถึงเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเวลาล่วงเลยมาปีเศษ  ซึงขาดอายุความตามมาตรา ๑๕๐๘ ขอให้ยกฟ้องโดยไม่ต้องสืบพยาน
ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องจำเลย  แล้วพิจารณาสืบพยานโจทก์ได้ ๑ ปาก  ก็สั่งงดสืบพยาน  แล้วพิพากษายกฟ้องโดยอ้างเหตุว่า  ฟ้องของโจทก์ไม่มีมูลยกเป็นข้อหย่าได้  ทั้งขาดอายุความด้วย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายกคำพิพากษา ศาลชั้นต้น ให้ดำเนินการพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมิได้ให้การยกอายุความฟ้องร้องขึ้นเป็นข้อต่อสู้  ทั้งคำร้องของจำเลย  ก็มิใช่เป็นคำให้การเพิ่มเติม  ศาลชั้นต้นจะยกเอาเรื่องอายุความขึ้นเป็นเหตุยกฟ้องโจทก์ไม่ได้  ศาลอุทธรณ์ พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน
