คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤตติการณ์ที่ไม่เป็นการยินยอมด้วยในการโอน+สดงฝ่ายต่างเป็นเจ้าหนี้แลลูกหนี้เงินด้วยกัน ฝ่าย 1 โอนหนี้ให้คนภายนอก อีกฝ่าย 1 ฟ้องและศาลพิพากษาให้ใช้เงินเต็มจำนวนที่เป็นเจ้าหนี้ ภายหลังคนภายนอกมาฟ้องเรียกเงินที่รับโอน อีกฝ่าย 1 ก็ขอให้เอาเงินที่ตนยังมิได้รับชำระหักหนี้กับคนภายนอกนั้นได้ในกรณีที่ตนมิได้ยินยอมในการโอนหนี้นั้น เมื่อฝ่าย 1 โอนหนี้ให้คนภายนอกเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว อีกฝ่าย 1 จะขอหักกลบลบหนี้กับฝ่ายนั้นไม่ได้จะขอหักกลบลบหนี้อย่างไรก็ต้องไปว่ากล่าวกับผู้รับโอน ในกรณีเช่นนี้ศาลยกฟ้องการขอหักกลบลบหนี้กับผู้โอนแล้ว ก็ยังไปว่ากล่าวขอหักหนี้กับผู้รับโอนได้

ย่อยาว

เดิมจำเลยทำสัญญากู้เงิน ย.๓๖๐ บาท ใช้บ้างแล้วคงค้างอยู่ ๒๑๐ บาท ฝ่ายจำเลยเป็นเจ้าหนี้ ย.รวมทั้งต้นเงินแลดอกเบี้ย ๕๒๐ บาท เมื่อวันที่ ๑/๔/๒๔๗๕ ย.โอนสิทธิเรียกร้องในเงิน ๒๑๐ บาทนั้นให้โจทก์ โจทก์แล ย.ได้มีหนังสือแจ้งการโอนให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ ๔/๔/๒๔๗๕ จำเลยมีหนังสือไปยังโจทก์แล ย.ว่าจำเลยเป็นหนี้ ย. มากกว่าที่โอน ควรหักกลบลบกัน
ต่อมาวันที่ ๑๐/๖/๒๔๗๕ จำเลยในคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องเรียกเงินจาก ย.และขอให้หักหนี้ด้วย ศาลแพ่งพิพากษาให้ ย.ใช้เงินให้เต็มจำนวนโดยไม่ยอมให้หักหนี้โดยกล่าวว่าการโอนได้สำเร็จไปแล้ว จะมาขอหักหนี้ไม่ได้ ในคดีนั้นจำเลยยึดเงินจาก ย.ได้เพียง ๘๐ บาท
โจทก์จึงได้ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยในคดีนี้จำเลยต่อสู้ขอให้หักหนี้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพฤตติการณ์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ยินยอมด้วยในการโอนฉะนั้นจำเลยมีข้อต่อสู้ผู้โอนก่อนการโอนฉันใดก็ยกขึ้นต่อสู้ผู้รับโอนได้ฉันนั้นตาม ม.๓๐๘ วรรคท้าย จำเลยจึงขอหักหนี้กับโจทก์ได้ส่วนคดีเรื่องจำเลยฟ้อง ย.นั้น ศาลแพ่งได้กล่าวไว้ด้วยว่า “ถ้าหากจะเป็นข้อต่อสู้ในการหักกลบลบหนี้แก่ผู้รับโอนได้ประการใด ก็ต้องไปว่ากล่าวกันส่วน ๑” ฉะนั้นจำเลยจึงยังมีสิทธิยกขึ้นขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ได้ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ ยืนตามศาลอุทธรณ์

Share