คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4278/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยคืนเช็คที่โจทก์ชำระค่างวดตามสัญญาแก่โจทก์ ทั้งที่โจทก์ยืนยันว่ามีเงินจ่ายตามเช็ค ก็เพราะเหตุที่จำเลยไม่สามารถก่อสร้างอาคารให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ระยะเวลาการก่อสร้างจึงต้องตกอยู่ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 24 เดือน นับแต่วันทำสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยโดยไม่จำต้องกำหนดเวลาให้จำเลยอีก จำเลยต้องคืนเงินที่ได้รับไว้พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่เวลาที่รับไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมอาคารโครงการเมืองทองคริสตัลเฮ้าส์กับจำเลย โจทก์ชำระเงินค่าจองในวันทำสัญญากับผ่อนชำระรายงวดบางส่วนให้แก่จำเลยแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,067,500 บาท แต่จำเลยไม่สามารถทำการก่อสร้างอาคารให้แล้วเสร็จตามสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 2,377,624 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 2,067,500 บาท

จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 2,067,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2539 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความให้ 30,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาหรือไม่ และโจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญากับเรียกดอกเบี้ยหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เหตุผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ได้กล่าวไว้โดยละเอียดซึ่งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายชัดเจนแล้วโดยเฉพาะข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ใช้ดุลพินิจชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานแล้วฟังว่า การที่จำเลยคืนเช็คที่โจทก์ชำระค่างวดตามสัญญาประจำงวดที่ 37, 38 และ 39 แก่โจทก์ ทั้ง ๆ ที่โจทก์ยืนยันว่ามีเงินจ่ายตามเช็คแน่นอน ก็เพราะเหตุที่จำเลยไม่สามารถก่อสร้างอาคารให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ซึ่งจะเห็นได้จากการที่จำเลยแถลงรับก่อนที่ศาลชั้นต้นจะออกไปเผชิญสืบตามคำขอของโจทก์ว่า จำเลยยังก่อสร้างอาคารให้แก่โจทก์ไม่แล้วเสร็จ ศาลชั้นต้นจึงงดการเผชิญสืบเช่นนี้ ระยะเวลาการก่อสร้างจึงต้องตกอยู่ภายในกำหนดเวลาตามสัญญาซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 24 เดือนนับแต่วันทำสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยโดยไม่ต้องกำหนดเวลาให้จำเลยอีก จำเลยต้องคืนเงินที่ได้รับไว้พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์นับแต่เวลาที่รับไว้และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสอง ที่จำเลยฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มาอีกนั้น ไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ได้ ศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของรองประธานศาลฎีกาซึ่งประธานศาลฎีกามอบหมาย เห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในข้อที่เป็นสาระแก่คดีแต่ไม่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยซ้ำอีก”

พิพากษายกฎีกาของจำเลย

Share