คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4272/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คดีก่อนนอกจากศาลลงโทษปรับจำเลยแล้ว ยังลงโทษจำคุกจำเลยแต่รอการลงโทษไว้อีกด้วย แม้จำเลยชำระค่าปรับแล้วก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมา กระทำผิดครั้งนี้อีก จึงเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติ การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมเล่นการพนันสลากกินรวบ ตามบัญชี ข.อันดับที่ 16 พนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจำเลยเป็นผู้จัดและเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ก่อนคดีนี้จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกรอ 2 ปี ฐานเป็นเจ้ามือการพนันสลากกินรวบ จำเลยพ้นโทษในคดีดังกล่าวยังไม่ถึง 2 ปี มากระทำผิดคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5,6, 10, 12, 14 ทวิ, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 58, 83 ให้บวกโทษของจำเลยที่รอไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีนี้ ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนนำจับ จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเคยต้องโทษและศาลรอการลงโทษไว้จริง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้จัดและเจ้ามือ จำคุก 2 เดือน ปรับ 2,500 บาท เนื่องจากจำเลยเคยกระทำผิดมาก่อน จึงไม่รอการลงโทษ ส่วนที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยนั้น ปรากฏว่าคดีเดิม ศาลรอการลงโทษไว้ จึงไม่มีวันพ้นโทษ เพิ่มโทษไม่ได้ คำขอส่วนนี้ให้ยกเสีย สำหรับที่โจทก์ขอให้นำโทษที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษคดีนี้ ศาลยังไม่เห็นสมควรบวกโทษที่รอไว้ จึงให้ยกเสียเช่นกัน โจทก์อุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษจำเลย และนำโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกกับโทษในคดีนี้ ส่วนจำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้นำโทษจำคุกจำเลย 2 เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดีหมายเลขแดงที่ 37/2530 ของศาลชั้นต้นมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ รวมเป็นจำคุกจำเลย 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติว่า ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลชั้นต้นให้จำคุก 2เดือน ปรับ 2,500 บาท ฐานเป็นผู้จัดและเป็นเจ้ามือการพนันสลากกินรวบตามคดีหมายเลขแดงที่ 37/2530 ของศาลชั้นต้น โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี ขณะกระทำผิดจำเลยอายุเกิน 17 ปีแล้ว จำเลยกลับมากระทำผิดในคดีนี้อีกภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาถึงที่สุด คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์ว่า การที่จำเลยถูกปรับนั้นถือเป็นการพ้นโทษอันศาลจะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา14 ทวิ ได้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โทษปรับจะเป็นโทษชนิดหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 ก็ตาม แต่คดีดังกล่าวนอกจากศาลลงโทษปรับจำเลยแล้ว ยังได้ลงโทษจำคุกจำเลย แต่รอการลงโทษไว้อีกด้วยแม้จำเลยชำระค่าปรับแล้วก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดครั้งนี้อีก จึงเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ ไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันโดยไม่เพิ่มโทษจำเลยทั้งสองจึงชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share