แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีที่ฟ้องจำเลยหาว่าขุดทำลายทำนบกั้นน้ำหนองสาธารณะชำรุดเสียหายอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ตาม มาตรา 191 นั้นเพียงแต่โจทก์มีพยานสืบแต่ว่าจำเลยขุดทำนบกั้นน้ำสาธารณะเพื่อระบายน้ำออกไป โดยเกรงน้ำจะท่วมนาจำเลย ที่จำเลยกระทำนั้นจะสามารถอาจจะเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้อย่างไรหรือไม่ ไม่ปรากฏ กลับปรากฏตามคำพยานโจทก์อีกว่าถ้าน้ำในหนองมากก็ต้องเปิดทำนบระบายน้ำออกเหมือนกันเช่นนี้ ถือว่าโจทก์สืบไม่ได้ครบองค์ความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 191
ยังลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 191โดยกล่าวหาว่าจำเลยสมคบกันใช้จอบขุดทำลายทำนบกั้นน้ำหนองไผ่ซึ่งเป็นหนองสาธารณชำรุดเสียหาย สามารถอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องแต่ลงโทษเพียงจำคุก 1 เดือนปรับคนละ 50 บาท ยกโทษจำเสีย
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า การกระทำของจำเลยสามารถอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีพยานสืบแต่ว่า จำเลยสมคบกันขุดทำนบกั้นน้ำหนองไผ่เพื่อระบายน้ำออกไปโดยเกรงน้ำจะท่วมนาจำเลยที่จำเลยกระทำเช่นนี้จะสามารถอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ได้อย่างไรหรือไม่ ไม่ปรากฏ ตามคำพยานโจทก์กลับปรากฏว่า ถ้าน้ำในหนองมากก็ต้องเปิดทำนบระบายน้ำออกเหมือนกัน เมื่อโจทก์สืบไม่ได้ครบองค์ความผิดตามมาตรา 191 เช่นนี้ ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
จึงพิพากษายืน