คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4238/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อสังหาริมทรัพย์จะตกอยู่ในภารจำยอมก็ต้องเพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น กรณีทางพิพาทในที่ดินของบุคคลหนึ่งจะตกเป็นทางภารจำยอมโดยอายุความก็ต้องเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของบุคคลอื่นเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่ตัวบ้านซึ่งเจ้าของบ้านอาศัยสิทธิปลูกอยู่บนที่ดินของบุคคลอื่นดังกล่าว ดังนั้น ผู้เป็นเจ้าของบ้านแต่มิได้เป็นเจ้าของที่ดินจึงไม่อาจอ้างการได้สิทธิทางภารจำยอมโดยอายุตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 เพราะเป็นการใช้ทางภารจำยอมโดยอาศัยสิทธิของผู้เป็นเจ้าของที่ดินที่ตนปลูกบ้านอยู่เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสิบสามฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 7302 และเลขที่ 142998 ตำบลบางกร่าง โจทก์ทั้งสิบสามปลูกบ้านอยู่อาศัยและทำสวนในท้องที่หมู่ที่ 8 ตำบลบางกร่างได้ใช้ทางเดินผ่านที่ดินโฉนดเลขที่ 7302 ทางด้านทิศเหนือที่ดินโฉนดเลขที่ 142998 ทางด้านทิศตะวันออกมาเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้วทางพิพาทจึงเป็นทางภารจำยอม ต่อมาจำเลยได้ปิดกั้นทางภารจำยอมทั้งสองด้าน ทำให้โจทก์ทั้งสิบสามและบริวารไม่สามารถใช้ทางภารจำยอมได้ตามปกติ ขอให้พิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมและให้จำเลยไปจดทะเบียนภารจำยอมให้แก่โจทก์ หากไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน จำเลยให้การว่า โจทก์ทั้งสิบสามไม่เคยเดินผ่านทางพิพาท โจทก์ที่ 3 ถึงโจทก์ที่ 13 มีภูมิลำเนาอยู่ห่างไกลจากบ้านและที่ดินของจำเลย ไม่จำเป็นที่จะต้องมาผ่านที่ดินของจำเลยแต่อย่างใด ส่วนโจทก์ที่ 1 กับโจทก์ที่ 2 มีทางเดินเป็นแนวคันสวนใช้ประโยชน์ร่วมกับจำเลยอยู่อีกด้านหนึ่งอยู่แล้วทางพิพาทไม่ใช่ทางภารจำยอม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 5 และที่ 13 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ (ที่ถูกคือพิพากษาแก้) เป็นว่าทางพิพาทในที่ดินโฉนดเลขที่ 7302 และ 142998 ภายในกรอบสีแดงตามแผนที่พิพาทตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 5 และที่ 13ให้จำเลยเปิดทางภารจำยอม คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ทางพิพาทตกอยู่ในภารจำยอมโดยอายุความหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 นั้น อสังหาริมทรัพย์จะตกอยู่ในภารจำยอมก็ต้องเพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น กรณีทางพิพาทในที่ดินของบุคคลหนึ่งจะตกเป็นทางภารจำยอมโดยอายุความก็ต้องเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของบุคคลอื่นเท่านั้นไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่ตัวบ้านซึ่งเจ้าของบ้านอาศัยสิทธิปลูกอยู่บนที่ดินของบุคคลอื่นดังกล่าวดังนั้นผู้เป็นเจ้าของบ้านแต่มิได้เป็นเจ้าของที่ดินจึงไม่อาจอ้างการได้สิทธิทางภารจำยอมโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 เพราะเป็นการใช้ทางภารจำยอมโดยอาศัยสิทธิของผู้เป็นเจ้าของที่ดินที่ตนปลูกบ้านอยู่ คดีนี้ไม่ปรากฏว่าโจทก์ที่ 1, ที่ 3, ที่ 4, ที่ 5 และที่ 13 มีที่ดินอยู่ในบริเวณทางพิพาท ซึ่งจะต้องใช้ทางพิพาทเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของตนคงมีบ้านปลูกอยู่บนที่ดินของภรรยาบ้างหรือของตายายบ้างในบริเวณนี้เท่านั้น โจทก์ที่ 1, ที่ 3, ที่ 4, ที่ 5 และที่ 13 จึงไม่อาจอ้างทางภารจำยอมเหนือที่ดินของจำเลยได้ ฯลฯ ส่วนโจทก์ที่ 2 นั้นข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า โจทก์ที่ 2 ใช้ทางพิพาทจนได้ทางภารจำยอมโดยอายุความ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share