คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4235/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์นำรถยนต์ไปฝากไว้กับจำเลย จำเลยเรียกเก็บค่าฝากเป็นรายเดือน มีระเบียบว่าเจ้าของรถต้องฝากกุญแจไว้กับจำเลยเพื่อจำเลยเลื่อนรถได้ในกรณีที่มีรถอื่นเข้ามาจอด ซึ่งโจทก์ได้มอบกุญแจรถให้จำเลยทุกครั้งที่มาจอดพฤติการณ์ดังกล่าว เป็นการรับฝากทรัพย์โดยมีบำเหน็จ หาใช่เป็นเรื่องให้เช่า สถานที่จอดรถไม่ โจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์หรือยื่นคำแก้อุทธรณ์จึงไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะกำหนดให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ราคารถยนต์1,350,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ชดใช้ราคารถยนต์แก่โจทก์ 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีโดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท ยกฟ้องจำเลยที่ 1ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ให้เป็นพับ
จำเลยที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3ชดใช้ราคารถยนต์แก่โจทก์ 800,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีในชั้นอุทธรณ์โดยกำหนดค่าทนายความรวม 7,000 บาท
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 จะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ต้องรับผิดเพราะรับฝากทรัพย์รถยนต์คันพิพาทไว้โดยมีบำเหน็จ จำเลยที่ 2 และที่ 3อ้างว่าไม่ต้องรับผิดเพราะจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้รับฝากทรัพย์แต่เป็นการให้เช่าที่จอดรถเท่านั้น ปัญหาดังกล่าวได้ความจากโจทก์ว่า โจทก์นำรถยนต์คันพิพาทไปฝากไว้กับจำเลยที่ 2 และที่ 3ครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2535 และฝากเรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันที่รถหาย โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 เรียกเก็บค่าฝากเป็นรายเดือนมีระเบียบว่าเจ้าของรถจะต้องฝากกุญแจรถไว้กับจำเลยที่ 3เพื่อให้จำเลยที่ 3 เลื่อนรถได้ในกรณีที่มีรถอื่นเข้ามาจอดซึ่งโจทก์ได้มอบกุญแจรถให้จำเลยที่ 3 ทุกครั้งที่นำรถมาจอดสอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 ที่ให้การว่าผู้ที่นำรถมาจอดจะต้องฝากกุญแจรถไว้ที่ผู้ดูแลเพื่อจะได้เลื่อนรถให้เป็นระเบียบได้ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3รับฝากทรัพย์โดยมีบำเหน็จหาใช่เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 2 และที่ 3ให้เช่าสถานที่จอดรถไม่ และที่อ้างว่าโจทก์นำรถยนต์คันพิพาทเข้ามาจอดแทนที่รถยนต์คันอื่นที่โจทก์เคยนำมาจอดโดยพลการโดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่รู้เห็นด้วยนั้นก็รับฟังไม่ได้เพราะเป็นการต่อสู้นอกคำให้การ เมื่อรถยนต์คันพิพาทของโจทก์หายไป จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์
ที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์หรือยื่นคำแก้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้โจทก์เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่าคดีนี้ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ทั้งไม่ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์แต่อย่างใด จึงไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะกำหนดให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แทนโจทก์ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีในชั้นอุทธรณ์กำหนดเป็นค่าทนายความในศาลชั้นต้น 5,000 บาท โดยไม่กำหนดค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ใช้แทนโจทก์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์มิได้แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้

Share