แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดของลูกหนี้ซึ่งพระราชบัญญัติ ล้มละลายฯมาตรา8ให้สันนิษฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นเป็นเพียงเหตุหนึ่งที่กฎหมายให้อำนาจโจทก์ฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้เท่านั้นส่วนการพิจารณาคดีล้มละลายตามคำฟ้องนั้นศาลต้องพิจารณาเอาความจริงดังที่บัญญัติในมาตรา9หรือมาตรา10และมาตรา14โดยต้องคำนึงถึงเหตุผลประกอบให้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจริงลำพังแต่คำเบิกความของโจทก์เพียงปากเดียวกล่าวอ้างลอยๆว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สินที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้โดยไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงให้แน่ชัดว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาของศาลคดีถึงที่สุดแล้วมีหนี้คำนวณถึงวันฟ้องเป็นเงินทั้งสิ้น694,625 บาท จำเลยมิได้ชำระหนี้ โจทก์ได้ร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแล้ว แต่จำเลยไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ จึงสันนิษฐานได้ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
จำเลย ไม่ยื่น คำให้การ และ ขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ มีว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ โจทก์นำสืบแต่เพียงว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่553/2537 ของศาลชั้นต้น ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว ยอดหนี้ถึงวันฟ้องมีจำนวนเกินกว่า 50,000 บาท และจำเลยไม่ชำระหนี้โจทก์ขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีแล้ว แต่จำเลยไม่มีทรัพย์สินใดที่จะให้ยึดพฤติการณ์ของจำเลยเช่นนี้ ย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวสมควรที่ศาลจะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดได้นั้น เห็นว่า แม้โจทก์จะขอหมายบังคับคดี เพื่อยึดทรัพย์ของจำเลยตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นดังกล่าวแต่จำเลยไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ซึ่งพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(5) ให้สันนิษฐานว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้น เป็นเพียงเหตุหนึ่งที่กฎหมายให้อำนาจโจทก์ฟ้องจำเลยให้ล้มละลายได้เท่านั้น ส่วนการพิจารณาคดีล้มละลายตามคำฟ้องของโจทก์นั้น ศาลต้องพิจารณาเอาความจริงดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 หรือมาตรา 10 ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 14 ทั้งต้องคำนึงถึงเหตุผลอื่นประกอบที่พอแสดงให้เห็นว่า จำเลยตกอยู่ในฐานะผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจริง เพราะการวินิจฉัยให้บุคคลใดล้มละลายย่อมกระทบกระเทือนถึงสิทธิเสรีภาพในการดำรงชีวิตตามกฎหมายตลอดจนสถานะของบุคคลและสิทธิในทางทรัพย์สินของผู้นั้นโดยตรง อันเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนกฎหมายถึงให้อำนาจศาลที่จะใช้ดุลพินิจได้อย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับมูลหนี้ที่โจทก์อ้างเป็นเหตุฟ้องจำเลยให้ล้มละลายนี้ทางนำสืบของโจทก์คงมีโจทก์เพียงปากเดียวกล่าวอ้างลอย ๆ ว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ โดยไม่มีพยานหลักฐานใดมาแสดงให้เห็นประจักษ์แน่ชัดว่าจำเลยตกอยู่ในสภาพมีหนี้สินล้นพ้นตัวลำพังคำเบิกความของโจทก์ยืนยันข้อเท็จจริงเพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีหนี้สินพ้นตัว ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามาชอบแล้วฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน