แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค่ารักสาทรัพย์ที่ยึดไว้ก่อนมีคำพิพากสาย่อมถือได้ว่าเปนค่ารึชาทำเนียม ถ้าไนข้อตกลงของคู่ความไม่มีว่ามิให้ถือว่าค่ารักสาทรัพย์เปนค่ารึชาทำเนียมแล้วตามปรกติก็ต้องถือว่าค่ารักสาทรัพย์เปนค่ารึชาทำเนียม.
ย่อยาว
โจทยื่นคำแถลงขอไห้สาลออกคำบังคับให้จำเลยนำเงิน ๔๕๖๓ บาท ๑๖ สตางค์ มาชำระไห้โจท
สาลชั้นต้นนัดโจทจำเลยมาพร้อมกัน จำเลยแถลงยอมไช้เงินแก่โจทกเพียง ๑๑๑๑ ลสม ๑๖ สตางค์ ส่วนอีก ๓๔๕๒ บาท โจทอ้างว่าเปนค่ารักสาทรัพย์ค่าจ้างเฝ้าทรัพย์ และค่าเช่า ฝ่ายจำเลยเถียงว่าได้เคยมีข้อตกลงกันไว้ไนรายงานพิจารนาของสาลแล้ว
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วมีคำสั่งบังคับไห้จำเลยนำเงิน ๑๑๑๑ บาท ๑๖ สตางค์ มาชำระไห้โจทพายใน ๑ เดือน คำขอนอกนั้นไห้ยก
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์เห็นว่าข้อความตามรายงานพิจารนาปรากตเพียงว่าค่ารักสาไห้จ่ายเงินไนกองกลางซึ่งหมายถึงว่าค่ารักสาไห้เอกเงินกองกลางจ่ายไปก่อนเท่านั้นไม่ไช่เอาเงินกองกลางจ่ายไปแล้วก็แล้วไป ค่ารักสาที่จ่ายไปนั้นยังคงเปนค่ารึชาทำเนียมหยู่ จึงพิพากสาแก้ ไห้จำเลยที่ ๑ ไช้เงิน ๔๕๖๓ บาท ๑๖ สตางค์แก่โจท
จำเลยที่ ๑ ดีกา สาลดีกาเห็นว่าตามปรกติค่ารักสาทรัพย์ที่ยึดไว้ก่อนพิพากสา ย่อมเปนค่ารึชาทำเนียมซึ่งแล้วแต่สาลจะไห้ ฝ่ายไดเปนผู้เสีย และเมื่อข้อตกลงไนคดีนี้ ไม่มีว่ามิให้ถือเปนค่ารึชาทำเนียม จึงพิพากษายืนตามสาลอุทธรน์.