แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรนีไนเรื่องหาว่ายักยอกของหาย แม้โจทมิได้ระบุว่าของหายที่ไหน แต่ได้ระบุถึงที่ซึ่งจำเลยกะทำผิดแล้วดังนี้ไม่ถือว่าเปนฟ้องเคลือบคลุม
คำไห้การชั้นสอบสวนของจำเลย โจทส่งระหว่างสืบพยานจำเลยเปนการยันปากคำจำเลยสาลรับฟังได้.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่า มีคนร้ายลักไม้ขอนสักของบริสัทไม้ไทยไหลลอยไป ๓๕๘ ท่อนต่อมาจำเลยเก็บไม้ขอนสักรายนี้ได้ ๑ ท่อนแล้วยักยอกไม่ส่งโรงพักกองตระเวนซึ่งหยู่ไกล้ขอไห้ลงโทส
จำเลยไห้การปติเสธ
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสายกฟ้องโจท
โจทอุธรน์ สาลอุธรน์พิพากสากลับว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. ๓๑๘ จำคุก ๑ เดือน
จำเลยดีกาว่า
๑. ฟ้องโจทไม่ครบองค์ความผิดการยักยอกสาลดีกาเห็นว่า โจทได้บันยายข้อเท็ดจิงมาพอเข้าเกนท์ความผิด ม. ๓๑๘ ก.ม. อาญาแล้ว
๒. ฟ้องโจทไม่ได้กล่าวว่า ไม้ไหลลอยที่ไหน สาลดีกาเห็นว่า โจทได้ระบุที่เกิดเหตุแล้ว ฟ้องโจทจึงไม่เคลือบคลุม
๓. ฟ้องโจทไม่ได้บันยายว่าไม้เปลี่ยนจากสภาพเดิม โจทถือว่าไม้เปลี่ยนแปลงไปจึงเปนการสืบนอกประเด็น สาลดีกาเห็นว่า ไม้ยังคงเปนท่อนหยู่ ไม่ได้เปลี่ยนสภาพไปหมด
๔. จำเลยว่าคำไห้การชั้นสอบสวนโจทส่งระหว่างสืบพยานจำเลยสาลจะฟังไม่ได้ สาลดีกาเห็นว่า โจทส่งระหว่างสืบตัวจำเลยเปนการส่งเพื่อพิสูจ์นยันจำเลย สาลรับฟังคำไห้การชั้นสอบสวนของจำเลยได้ จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์.