แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยเล่นการพนันก่อน พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ เมื่อมีการวินิจฉัยปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 แล้ว ศาลแรงงานฯ ก็พิจารณาพิพากษาได้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นการพนันเป็นความผิดร้ายแรง จำเลยให้การว่ามิได้เล่นการพนัน ข้อที่ว่าเล่นการพนันเป็นความผิดร้ายแรงจึงเป็นยุติตามฟ้อง
ย่อยาว
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า ศาลแรงงงานกลางไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสองสำนวนนี้ เพราะการที่โจทก์เลิกจ้างจำเลยร่วมอันเป็นมูลกรณีพิพาทกันว่า เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรมนั้น เกิดขึ้นก่อนใช้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวแม้มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ศาลชั้นต้น แต่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน โจทก์ยกขึ้นอุทธรณ์ได้ศาลฎีกาพิเคราะห์ปัญหานี้แล้ว เห็นว่า เมื่อมีข้อพิพาทว่าโจทก์กระทำการอันไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น จำเลยร่วมก็ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ และคณะกรรมการดังกล่าวได้วินิจฉัยชี้ขาด อันเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 แล้ว เมื่อฝ่ายใดไม่พอใจย่อมมีสิทธินำคดีไปสู่ศาลได้ไม่ว่ามูลกรณีจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการใช้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 เพราะมิได้มีกฎหมายใดห้ามไว้ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวด้วยพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8 ศาลแรงงานกลางจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้ คำพิพากษาฎีกาที่ 1646/2523 ระหว่างนายวิสิทธิ์วงศ์ทองเหลือ โจทก์ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย จำเลย ที่โจทก์อ้าง ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
คดีทั้งสำนวนนี้ ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยร่วมกระทำความผิดเล่นการพนันฝ่าฝืนข้อบังคับ แต่ความผิดนั้นไม่ใช่กรณีร้ายแรง เพราะจำเลยร่วมกระทำความผิดครั้งแรกและมิใช่เจ้ามือ ซึ่งตามประกาศของนายดี. แวงการ์เดนก์ ผู้จัดการโรงงานของจำเลยคนก่อน มีโทษเพียงให้พักงาน คดีมีปัญหาว่าที่ศาลแรงงานกลางฟังว่า ความผิดของจำเลยร่วมมิใช่กรณีร้ายแรงนั้นเป็นการวินิจฉัยคดีโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ปัญหาข้อนี้ แม้โจทก์มิได้อุทธรณ์แต่เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
ปรากฏตามฟ้องว่า โจทก์กล่าวอ้างว่า จำเลยร่วมกระทำความผิดเล่นการพนัน ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงและโจทก์มีสิทธิไล่ออกหรือเลิกจ้างได้ตามข้อบังคับ จำเลยให้การว่า จำเลยร่วมมิได้เล่นการพนัน แต่มิได้ปฏิเสธว่าความผิดเล่นการพนันมิใช่ความผิดร้ายแรง โจทก์ไม่มีสิทธิไล่ออกหรือเลิกจ้างได้ตามข้อบังคับ คดีจึงมีประเด็นพิพาทตามข้อที่โจทก์จำเลยโต้เถียงกันแต่เพียงว่า จำเลยร่วมเล่นการพนันหรือไม่ ส่วนข้อที่โจทก์อ้างว่า ความผิดฐานเล่นการพนันเป็นความผิดร้ายแรง โจทก์ไล่ออกหรือเลิกจ้างได้ตามข้อบังคับนั้น ฟังเป็นยุติได้ตามฟ้อง ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ความผิดดังกล่าวไม่ร้ายแรง โจทก์ไล่ออกหรือเลิกจ้างไม่ได้นั้น เป็นการฟังข้อเท็จจริงขัดกับข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นที่จำเลยมิได้ต่อสู้ไว้ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 31 คดีนี้จึงฟังได้ว่าจำเลยร่วมกระทำความผิดเล่นการพนันอันเป็นความผิดร้ายแรงซึ่งโจทก์ไล่ออกหรือเลิกจ้างได้ โจทก์จึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้จำเลยร่วม คำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ทั้งสองสำนวนไม่ชอบ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย และไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยอุทธรณ์โจทก์ข้ออื่นต่อไป
พิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยตามฟ้องทั้งสองสำนวน”