แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ชายตลิ่ง ซึ่งฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปีนั้น เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1304(2) เป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นประโยชน์แต่เฉพาะตัวตาม พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 มาตรา 122
ฉะนั้นเมื่อกรมการอำเภอมีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดปลูกผักบนที่ชายตลิ่งตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายผู้ใดยังฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ย่อมมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 334(2)
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 334(2)
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยผิดตามมาตรา 334(2) ให้ปรับจำเลย 10 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกับนางยวงมีที่ดินติดต่อกัน ได้รับโฉนดแล้วทั้งคู่ หน้าที่ดินติดทางสาธารณะเหมือนกัน พ้นทางสาธารณะไปเป็นชายตลิ่ง ฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปีพอน้ำลด จำเลยก็ปลูกผักลงบนที่ชายตลิ่งตรงหน้าที่ดินของนางยวงบัดนี้นางยวงให้ผู้มีชื่อเช่าที่ดินของตนทำโรงเลื่อย ผู้เช่าเอาไม้ขึ้นลงไม่ได้ เพราะกีดผักที่จำเลยปลูกไว้ นางยวงขอให้ผู้ใหญ่บ้านกำนัน ห้ามปรามจำเลย จำเลยไม่ฟัง ผลที่สุดกรมการอำเภอสั่งห้ามจำเลย จำเลยก็ไม่เชื่อฟังอีกโดยอ้างว่าจำเลยเคยปลูกผักในที่ชายตลิ่งตรงนั้นมาหลายสิบปีแล้ว โจทก์จึงฟ้องคดีนี้
ได้ความดังนี้ ศาลนี้ เห็นว่าที่ชายตลิ่ง ซึ่งฤดูน้ำ น้ำท่วมถึงทุกปี นั้น เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304(2)เป็นหน้าที่ของกรมการอำเภอจะต้องคอยตรวจตรารักษาอย่าให้ผู้ใดกีดกันเอาไปเป็นอาณาประโยชน์แต่เฉพาะตัวตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 มาตรา 122 เมื่อกรมการอำเภอมีอำนาจหน้าที่ดังนี้ คำสั่งของกรมการอำเภอที่ห้ามไม่ให้จำเลยปลูกผักลงบนที่ชายตลิ่ง ตรงหน้าที่ดินของผู้อื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้นางยวงหรือผู้เช่าที่ดินของนางยวงจะได้รับประโยชน์ในการสั่งห้ามนี้มากกว่าผู้อื่นก็ไม่สำคัญ จำเลยย่อมมีผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 334(2)
คงพิพากษายืน