คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4173/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่า ว.กรรมการบริษัทโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในใบแต่งทนายความหรือไม่ จำเลยที่ 3 มิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การฎีกาของจำเลยที่ 3 ในส่วนนี้จึงเป็นเรื่องนอกประเด็นนอกเหนือจากคำให้การ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสามในเรื่องเดียวกันครั้งหนึ่งแล้วแต่ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานไม่พอรับฟังว่า ว.กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทโจทก์เป็นผู้กระทำการแทนโจทก์ในคดีดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แม้คดีก่อนศาลจะสืบพยานในประเด็นแห่งคดีจนเสร็จการพิจารณาแล้ว แต่ศาลก็พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุพยานหลักฐานโจทก์เกี่ยวกับอำนาจฟ้องยังไม่พอรับฟังโดยยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี ทั้งปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องในคดีก่อนกับคดีนี้ก็ต่างกัน การที่โจทก์มาฟ้องใหม่ในเรื่องเดียวกันนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสามชำระหนี้ตามสัญญากู้จำนวน 583,665 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบเก้าต่อปีของต้นเงิน 400,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 3 ให้การว่า ดวงตราที่ประทับในใบแต่งทนายความโจทก์มิใช่ดวงตราที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำจำเลยที่ 1 ไม่เคยกู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ได้ค้ำประกันเงินกู้ตามฟ้อง หลักฐานการกู้เงินและค้ำประกันเป็นเอกสารปลอม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้จำนวน400,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบเก้าต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2524 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในข้อที่ว่านายวิระ รมยะรูป ได้ลงลายมือชื่อในใบแต่งทนายความหรือไม่ตามคำให้การของจำเลยที่ 3มิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ให้เป็นประเด็นไว้ ฎีกาของจำเลยที่ 3ในส่วนนี้จึงเป็นเรื่องนอกประเด็นนอกเหนือจากคำให้การ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ปัญหาวินิจฉัยข้อต่อไปเกี่ยวกับเรื่องฟ้องซ้ำนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสามในเรื่องเดียวกันนี้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอรับฟังว่า นายวิระ รมยะรูป ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์เป็นผู้กระทำการแทนโจทก์ในคดีดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเห็นว่า คดีก่อนแม้จะมีการสืบพยานในประเด็นแห่งคดีจนเสร็จการพิจารณาแล้วตามที่จำเลยที่ 3 อ้างในฎีกาก็ตาม แต่ศาลก็พิพากษายกฟ้องเพราะเหตุพยานหลักฐานโจทก์เกี่ยวกับอำนาจฟ้องยังไม่พอรับฟังโดยยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดี ทั้งปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องในคดีก่อนกับคดีนี้ก็ต่างกัน การที่โจทก์มาฟ้องในเรื่องเดียวกันนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
พิพากษายืน

Share