คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4171/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่ามีการโอนเงินจำนวนหนึ่งจากธนาคารในเมืองฮ่องกงมาเข้าบัญชีกระแสรายวันของจำเลยในธนาคารผู้คัดค้าน ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นอย่างอื่น ในเบื้องต้นต้องฟังว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของจำเลยผู้เป็นเจ้าของบัญชี เมื่อผู้คัดค้านอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวมิใช่เป็นของจำเลยแต่เป็นของผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยส่งมาชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านแทนจำเลย ผู้คัดค้านจึงมีภาระการพิสูจน์ให้ฟังได้ตามข้ออ้างของตน

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันชำระหนี้ให้โจทก์ ต่อมามีการโอนเงินจากเมืองฮ่องกงมาเข้าบัญชีกระแสรายวันของจำเลยที่ ๑ ในธนาคารชาร์เตอร์ด จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินดังกล่าว แต่ธนาคารชาร์เตอร์ด จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่มีและบัญชีของจำเลยปิดแล้ว
โจทก์ยื่นคำร้องว่า เหตุที่บัญชีกระแสรายวันของจำเลยที่ ๑ ไม่มีเงินเพราะธนาคารดังกล่าวหักบัญชีไม่ถูกต้อง โดยนำหนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระมาหักบัญชี
ธนาคารชาร์เตอร์ด จำกัด สาขากรุงเทพมหานครยื่นคำคัดค้านว่าเงินที่ส่งมาเข้าบัญชีจำเลยที่ ๑ เป็นเงินของผู้ค้ำประกันหนี้จำเลยที่ ๑ มิใช่เงินของจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ยกคำร้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าโจทก์มีสิทธิขออายัดเงินในบัญชีกระแสรายวันเลขที่ ๐๑๘๕๙๕๓ ของจำเลยที่ ๑ หรือไม่ เห็นว่า เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ มีการนำเงินเข้าบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวซึ่งเป็นบัญชีของจำเลยที่ ๑ในธนาคารผู้คัดค้านเป็นเงิน ๑๙,๕๓๙,๖๕๐.๔๔ บาท ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นอย่างอื่นในเบื้องต้นต้องฟังว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของจำเลยที่ ๑ ผู้เป็นเจ้าของบัญชี เมื่อผู้คัดค้านอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวมิใช่เป็นของจำเลยที่ ๑ แต่เป็นเงินของนาย ที.ซี.เช็งผู้ค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ ๑ ที่ส่งมาชำระหนี้แทนจำเลยที่ ๑ ผู้คัดค้านจึงมีภาระการพิสูจน์ให้ฟังได้ตามข้ออ้างของตน และจากทางนำสืบของคู่ความศาลฎีกาเห็นว่า พยานหลักฐานของผู้คัดค้านไม่พอฟังว่านาย ที.ซี.เช็ง ได้ทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ ๑ ต่อธนาคารชาร์เตอร์ด และเงิน ๑๙,๕๓๙,๖๕๐.๔๔ บาท เป็นเงินของนาย ที.ซี.เช็ง ที่ส่งมาชำระหนี้ให้ผู้คัดค้านแทนจำเลยที่ ๑ หนี้ที่จำเลยที่ ๑ เป็นหนี้ผู้คัดค้านก็ยังไม่ถึงกำหนดชำระ โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยที่ ๑ และหนี้ถึงกำหนดชำระแล้วจึงมีสิทธิขอให้ศาลสั่งอายัดเงินในบัญชีกระแสรายวันของจำเลยที่ ๑ ดังกล่าวได้ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของโจทก์นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกคำคัดค้านของผู้คัดค้าน ให้ผู้คัดค้านปฏิบัติตามคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเลขที่ ๐๑๘๕๙๕๓ ของจำเลยที่ ๑ ที่ศาลชั้นต้นสั่งเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๕

Share