คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4171/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 7 เดือน 15 วันก่อนศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาจำเลยรับโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นครบแล้ว การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นส่งตัวจำเลยไปยังสถานฝึกอบรมจนกว่าจะมีอายุครบ 18 ปี มิใช่เป็นการลงโทษสองครั้งในความผิดเดียวกันเพราะการส่งตัวไปฝึกอบรมไม่ใช่เป็นการลงโทษตามกฎหมาย แต่ศาลฎีกาเห็นไม่สมควรส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำปืนลั่นโดยประมาทเป็นเหตุให้สามเณรไชยวัฒน์ มูลจะคำ ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 300 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 และริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91, 300 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 จำเลยอายุ 15 ปี 4 เดือน ลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จำคุก 9 เดือน ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 3 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม มาตรา 78 คงจำคุก 7 เดือน 15 วัน ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยแต่ให้ส่งตัวไปฝึกอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางจังหวัดเชียงใหม่จนกว่าจำเลยจะมีอายุครบ 18 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นครบแล้ว แต่ยังจะต้องถูกส่งตัวไปฝึกอบรมที่สถานพินิจตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีก เป็นการลงโทษสองครั้งในความผิดเดียวกัน

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การส่งตัวไปฝึกอบรมไม่ใช่เป็นการลงโทษตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ดี ปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยต้องโทษจำคุกครบกำหนดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว กรณีจึงไม่สมควรจะส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมอีก

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บิดามารดาของจำเลยรับตัวจำเลยไปอบรมสั่งสอนมิให้ก่อเหตุร้ายขึ้นอีกภายใน 1 ปี นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้มิฉะนั้นศาลจะปรับครั้งละ 100 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74(2) ประกอบด้วยมาตรา 75

Share