แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จะถืออายุความห้าปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(1) ประกอบกับวรรคท้ายได้นั้น ต้องเป็นเรื่องที่เจ้าหนี้เรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของให้ลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้เอาของนั้นไปประกอบอุตสาหกรรม แต่ถ้าเป็นหนี้ค่าซื้อของที่พ่อค้าขายเชื่อให้พ่อค้าอื่นไปขายอีกต่อหนึ่งแล้วไม่ใช่เป็นการที่เจ้าหนี้ทำไปเพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้ เพราะคำว่าอุตสาหกรรม นั้น หมายความถึงกิจการในทางผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าขึ้น หามีความหมายไปถึงการค้าขายโดยตรงไม่ กรณีนี้จึงมีอายุความ 2 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบริษัทจำกัด มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการค้าขาย เช่น ขายยาสูบ น้ำมันก๊าด จำเลยมีอาชีพประกอบการค้าขายใช้ชื่อว่า “ยี่ห้อเค่งน้ำโผ้ง” จำเลยได้ซื้อน้ำมันก๊าดของโจทก์ไปรวม 3 ครั้ง คิดเป็นเงิน 3,650 บาท เพื่อเอาไปขายอีกต่อหนึ่งเพื่อหวังกำไร จำเลยไม่ได้ชำระราคาสินค้าให้แก่โจทก์ จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ใช้หนี้โจทก์
จำเลยให้การปฏิเสธ และตัดฟ้องว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
วันนัดพร้อม คู่ความท้ากันว่า หนี้ค่าซื้อของเชื่อรายนี้ขาดอายุความฟ้องร้องหรือไม่ เป็นประเด็นข้อแพ้ชนะข้อเดียว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า บริษัทโจทก์เป็นพ่อค้าขายส่งขายสินค้าเชื่อให้จำเลยซึ่งเป็นพ่อค้าขายปลีก นำไปขายอีกต่อหนึ่ง ถือได้ว่าได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของฝ่ายลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) ประกอบด้วยวรรคท้าย จึงต้องอยู่ในบังคับแห่งอายุความ 5 ปี ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยใช้หนี้แก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะถืออายุความห้าปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) ประกอบกับวรรคท้ายได้ ต้องเป็นเรื่องที่เจ้าหนี้เรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของให้ลูกหนี้เพื่อให้ลูกหนี้เอาของนั้นไปประกอบอุตสาหกรรมได้ เช่น เจ้าหนี้ซึ่งเป็นพ่อค้าได้ขายและส่งกระดาษให้ลูกหนี้เพื่อให้ลูกหนี้เอากระดาษไปพิมพ์แบบเรียนผลิตขึ้นจำหน่าย ดังนี้ เป็นการที่เจ้าหนี้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้ ดังตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 395/2502 บริษัทคลังสินค้าเอเซียจำกัดโจทก์ คุรุสภา จำเลย
แต่ถ้าเป็นหนี้ค่าซื้อของที่พ่อค้าขายเชื่อให้พ่อค้าอื่นไปขายอีกต่อหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เป็นการที่เจ้าหนี้ทำไปเพื่ออุตสาหกรรมของลูกหนี้ เพราะคำว่า “อุตสาหกรรม” นั้น หมายความถึงกิจการในทางผลิตสิ่งของเพื่อให้เป็นสินค้าขึ้น แต่หามีความหมายไปถึงการค้าขายโดยตรงไม่ ดังตัวอย่างในคำพิพากษาฎีกาที่ 953/2478นายเทียนเฮง แซ่เตี๋ย โจทก์ นายใจ๋เหยียง แซ่ตั้ง จำเลย และฎีกาที่ 1218/2501 นายนานซิงห์ โจทก์ นายวาร์ซคาร์หรือวารัชการ จำเลย
คดีนี้ นับแต่จำเลยเป็นหนี้โจทก์จนถึงวันที่โจทก์ฟ้องเกินสองปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ชอบแล้ว พิพากษายืน