คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาเช่าที่ดินมีกำหนดเวลา 5 ปี ต่อเจ้าพนักงานกรมการอำเภอ หลังจากวันทำสัญญาฉะบับแรกได้ 1 ปี คู่สัญญาได้ตกลงกันทำสัญญาเช่าอีกฉะบับหนึ่ง มีข้อความว่าเมื่อครบกำหนด 5 ปีแล้วผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่า, เช่าต่อไปอีก 3 ปี สัญญาฉะบับหลังทำกันเองและเขียนไว้หลังสัญญาฉะบับแรก ดังนี้ ถือว่าสัญญาเช่าที่ทำกันใหม่เพื่อขยายเวลาเช่าในสัญญาเดิมออกไป รวมกันเป็น 8 ปีนั้น เป็นการหลีกเลี่ยงการไปทำสัญญาเช่า ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อตกลงกันใหม่ จึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ใช้ไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินจากนายเคน ซึ่งเดิมที่ดินแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินนายหลง ๆ ขายให้นายเคนเมื่อครั้งที่ดินยังเป็นของนายหลงอยู่ จำเลยได้ทำสัญญาเช่าจากนายหลง เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๔๘๕ มีกำหนด ๕ ปี ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๙๐ ซึ่งเป็นเวลาสิ้นกำหนดสัญญาเช่า โจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลย ๆ ไม่ยอมออก จึงขอให้ขับไล่, นายบุญทันจำเลยรับว่า ได้สัญญาเช่าตามที่โจทก์ฟ้องจริง แต่เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๔๘๖ นายหลงขึ้นค่าเช่า และนายหลงยอมให้ทำสัญญาต่ออายุสัญญาเดิมออกไปอีก ๓ ปี จำเลยจึงมีสิทธิเช่าที่พิพาทไปจนถึงวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๔๙๓ โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้อง
โจทก์ขอให้ศาลเรียกนายหลงมาเป็นจำเลยร่วม นายหลงให้การเช่นเดียวกับนายบุญทันจำเลย
ชั้นพิจารณา โจทก์, จำเลยตกลงกันว่าสัญญาเช่าที่ทำต่ออายุเช่ากันเอง ลงวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๔๘๖ และทำก่อนสิ้นอายุ ๕ ปีตามกรมธรรม์สัญญาเดิมนั้น จะใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าใช้ได้ก็ขอให้ตัดสินให้โจทก์แพ้ ถ้าใช้ไม่ได้ ก็ตัดสินให้จำเลยแพ้ โจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพะยาน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้ขับไล่จำเลย
นายบุญทันจำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า ตามพฤติการณ์ต่าง ๆ ในคดีนี้ประกอบกัน เวลาทำสัญญาเช่าต่อจากสัญญาเดิมไปอีก ๓ ปีนั้น เวลาเช่าในสัญญาเดิมยังมีอยู่อีกถึงประมาณ ๔ ปีจึงจะครบกำหนดการเช่า เห็นได้ว่าการทำสัญญาเช่ากันใหม่ เพื่อขยายเวลาเช่าในสัญญาเดิมออกไปรวมกันเป็น ๘ ปี เป็นการหลีกเลี่ยงการไปทำสัญญาเช่าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ข้อตกลงเช่ากันใหม่จึงไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ใช้ไม่ได้
พิพากษายืน.

Share