คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4111/2551

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจร จำเลยต่อสู้อ้างฐานที่อยู่โดยอ้างว่าตามวันเวลาที่โจทก์ฟ้อง จำเลยไม่ได้ไปในที่เกิดเหตุ ความผิดฐานรับของโจรก็ต่างวัน เวลา และสถานที่ที่โจทก์ฟ้อง เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้นั้น เมื่อจำเลยนำสืบรับว่าได้บอกขายเครื่องสูบน้ำของผู้เสียหายที่ 2 ให้แก่นาย ข. แสดงว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ในเรื่องรับของโจรแต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335, 336 ทวิ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) (3) (7) (8) วรรคสอง ประกอบมาตรา 336 ทวิ, 83 จำคุก 3 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีข้อวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษามาหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่รู้ว่าเครื่องสูบน้ำที่บอกขายเป็นของผู้เสียหายที่ 2 ที่ถูกลักขโมยมาเนื่องจากนายสมโชคบอกให้จำเลยช่วยขาย ซึ่งเครื่องสูบน้ำดังกล่าวมิได้ถูกซุกซ่อนหรือมีใบไม้ปิดบังไว้ตามที่นายเขียนกล่าวอ้าง ซึ่งร้อยตำรวจโทบุญเกื้อได้เบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่าเครื่องสูบน้ำที่พบไม่มีสิ่งใดปกปิดไว้ จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่าเครื่องสูบน้ำเป็นของนายสมโชคจริงจึงช่วยบอกขายให้ จำเลยไม่สามารถตามนายสมโชคมาเบิกความให้ได้เนื่องจากนายสมโชคได้ย้ายที่อยู่และไม่ได้ติดต่อกันอีก หลังเกิดเหตุแล้วจำเลยมิได้หลบหนีไปไหน นั้น เห็นว่า นายเขียนพยานโจทก์เบิกความยืนยันว่า เครื่องสูบน้ำของผู้เสียหายถูกซุกซ่อนอยู่ในสวนยางโดยมีใบไม้ปิด เหตุที่ร้อยตำรวจโทบุญเกื้อพยานโจทก์เบิกความว่า ไม่มีใบไม้ปิด คงสืบเนื่องมาจากเมื่อนายเขียนไปดูเครื่องสูบน้ำดังกล่าวแล้วได้นำใบไม้ออก ที่จำเลยกล่าวอ้างว่ากระทำโดยสุจริตนั้นก็ขัดต่อเหตุผล ทั้งนี้เพราะเครื่องสูบน้ำดังกล่าวหากเป็นของนายสมโชคจริงก็ควรที่จะเก็บไว้ที่บ้านนายสมโชค หรือเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย มิใช่นำมาไว้ในสวนยางพาราซึ่งอาจมีบุคคลภายนอกมาลักไปได้ การที่เครื่องสูบน้ำดังกล่าวอยู่ในสวนยางพาราโดยที่ไม่มีบุคคลใดมาลักไป ย่อมแสดงให้เห็นว่าได้มีการปกปิดหรือซุกซ่อนไว้ พฤติการณ์ที่จำเลยบอกขายเครื่องสูบน้ำที่บุคคลในท้องที่ทราบโดยทั่วไปว่ามีคนร้ายลักไป ดังจะเห็นได้จากคำเบิกความของนายเขียนว่าทราบมาก่อนหน้าแล้วว่ามีคนร้ายลักเครื่องสูบน้ำมา และพฤติการณ์ที่เก็บเครื่องสูบน้ำไว้ในสวนยางพาราโดยมิได้เก็บไว้ที่บ้านของเจ้าของหรือฝากไว้แก่บุคคลใด ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเครื่องสูบน้ำดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่คนร้ายลักมา การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษามา ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานรับของโจร แม้จะไม่เป็นข้อแตกต่างในสาระสำคัญและไม่เกินคำขอ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยได้ก็ตาม แต่ความผิดที่โจทก์ฟ้องเป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ กล่าวคือ จำเลยต่อสู้อ้างฐานที่อยู่โดยอ้างว่าตามวันเวลาที่โจทก์ฟ้องจำเลยไม่ได้ไปในที่เกิดเหตุ ความผิดฐานรับของโจรที่เกิดขึ้นก็ต่างวัน เวลา และสถานที่ที่โจทก์ฟ้อง เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้นั้น เห็นว่า จำเลยนำสืบรับว่าได้บอกขายเครื่องสูบน้ำของผู้เสียหายที่ 2 ให้แก่นายเขียน แสดงให้เห็นว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ในเรื่องความผิดฐานรับของโจรแต่อย่างใด ฎีกาข้อนี้ของจำเลยก็ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษายืน.

Share