คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลยจำเลยพูดสั่งสอนผู้ตาย ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป 1 ทีถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก 3 นิ้วครึ่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครใจจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายร่างกายนางบัวลอยแก้วสาลี 1 ที ถูกที่ซอกคอโดยมีเจตนาฆ่า นางบัวลอยถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุกจำเลย 18 ปี ปรานีลดโทษหนึ่งในสาม คงจำคุก 12 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนาเพื่อป้องกันตัว แต่เกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ประกอบด้วย มาตรา 290, 68 และ 69 จำคุกจำเลย 3 ปี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ก่อนเกิดเหตุทำร้ายกัน จำเลยพูดจาสั่งสอนผู้ตายซึ่งเป็นน้องสาว ผู้ตายโกรธและโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยโดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จำเลยคว้าได้มีดและแทงไป 1 ที มีดถูกผู้ตายที่ซอกคอ แผลลึก 3 นิ้วครึ่ง ผู้ตายถึงแก่ความตายศาลฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์ถือไม่ได้ว่าจำเลยสมัครจะวิวาทต่อสู้ทำร้ายซึ่งกันและกันกับผู้ตายรูปคดีเห็นได้ว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันตัวให้พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ จริงอยู่มีดที่จำเลยใช้แทงทำร้ายผู้ตายเป็นอาวุธร้ายแรงอาจทำให้ถึงตายได้ แต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนค่ำมืด จำเลยแทงขณะที่ผู้ตายกระโดดเข้าไปหาจำเลยและแทงเพียงทีเดียว มิได้ซ้ำเติม คดีก็ไม่ได้ความว่าจำเลยแทงโดยแรง เหตุที่ผู้ตายมีบาดแผลลึกมากอาจเนื่องจากกำลังแรงที่ผู้ตายกระโดดเข้าไปจะทำร้ายจำเลยประกอบกับจำเลยใช้มีดแทงมา จึงทำให้เกิดบาดแผลลึก อนึ่ง ผู้ตายเป็นน้องสาวจำเลยแท้ ๆ คดีไม่มีเหตุถึงกับจะฆ่ากันให้ตาย เฉพาะลักษณะของมีดและบาดแผลจึงยังไม่พอที่จะชี้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดตัดสินลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา เพื่อป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุนั้นชอบด้วยรูปคดีแล้ว

พิพากษายืน

Share