แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยรับซื้อรถจักรยานของกลางไว้จากว. ในราคา280บาทถือว่าน่าจะรู้หรือควรจะรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เพราะเป็นการซื้อขายในราคาถูกผิดปกติจึงมีความผิดฐานรับของโจร ทรัพย์ของกลางราคาไม่มากจำเลยเป็นหญิงไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้งหนึ่งศาลให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด2ปี.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงดทษจำเลยฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานรับของโจรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ลงโทษจำคุก 6 เดือน คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2526 เวลากลางวัน นายวิชัยหรือโกมินทร์ได้ลักเอารถจักรยานยนต์สองล้อของผู้เสียหายไป และถูกตำรวจจับในวันเดียวกัน ต่อมาเช้าวันรุ่งขึ้นตำรวจก็ติดตามไปยึดได้รถจักรยานของผู้เสียหายคันดังกล่าวที่บ้านจำเลยเป็นของกลาง ปัญหาในข้อที่ว่าจำเลยได้กระทำผิดฐานรับของโจรโดยรับซื้อรถจักรยานคันนั้นไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์จริงหรือไม่นั้น โจทก์มีร้อยตำรวจตรีลือชัย สุดยอด เบิกความยืนยันว่าตำรวจจับนายวิชัยหรือโกมินทร์ได้ในวันเกิดเหตุตอนกลางคืนเช้าวันรุ่งขึ้นนายวิชัยก็บอกว่าได้เอารถจักรยานที่ลักมาไปขายให้แก่จำเลยและพาไปยึดเอารถจักรยานคันนั้นที่บ้านจำเลยเป็นของกลาง ตอนตรวจยึดจำเลยก็อยู่รู้เห็นและยอมรับว่าได้ซื้อรถจักรยานคันดังกล่าวจากนายวิชัยในราคา 280 บาท จึงจับจำเลยและตั้งข้อหาว่ากระทำผิดฐานรับของโจรซึ่งจำเลยก็รับสารภาพมีรายละเอียดตามบันทึกการตรวจค้นจับกุมเอกสารหมาย จ.1 ที่จำเลยอ้างว่าวันนั้นตำรวจยึดได้กัญชาอีกอย่างหนึ่งและจำเลยรับสารภาพเฉพาะเรื่องมีกัญชาไว้ในครอบครอง รับฟังไม่ได้เพราะมีตัวจำเลยกับสามีเบิกความกล่าวอ้างลอย ๆ เท่านั้น ในบันทึกการตรวจค้นจับกุมซึ่งจำเลยกับสามีได้ลงชื่อรับรองไว้แล้วก็มีข้อความระบุชัดแจ้งว่า ตำรวจจับจำเลยในเรื่องรับของโจรรถจักรยานที่นายวิชัย เรืองศิริ นำมาขายให้ข้อหาหนึ่ง อีกข้อหาหนึ่งเป็นเรื่องมีกัญชาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยให้การรับสารภาพซึ่งหมายความว่าจำเลยต้องรับสารภาพทั้งสองข้อหา ต่อมาในชั้นสอบสวนจำเลยก็ยังให้การยอมรับว่า ได้ซื้อรถจักรยานคันนั้นไว้จากนายวิชัยในราคา280 บาทอีก และให้การรับสารภาพฐานรับของโจรในตอนหลังด้วยมีรายละเอยีดตามบันทึกคำให้การเอกสารหมาย จ.3 ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ยืนยันว่าได้อ่านให้ฟังก่อนแล้วจึงให้จำเลยลงลายมือชื่อไว้ที่จำเลยปฏิเสธว่าลายมือชื่อผู้ต้องหาในบันทึกดังกล่าวไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ เท่านั้น แต่ตรวจดูแล้วลายมือชื่อนั้นก็มีลีลาการเขียนและรูปลักษณะอย่างเดียวกับที่จำเลยลงลายมือชื่อไว้ในบันทึกการตรวจค้นจับกุมเอกสารหมาย จ.1 จึงต้องรับฟังว่าจำเลยได้ลงลายมือชื่อและให้การชั้นสอบสวนตามบันทึกเอกสารหมายจ.3 จริง รูปคดีเชื่อว่าจำเลยได้รับซื้อรถจักรยานของกลางไว้จากนายวิชัยในราคา 280 บาท และน่าจะรู้หรือควรจะรู้ด้วยว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์เพราะเป็นการซื้อขายในราคาถูกผิดปกติ จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจรตามที่เคยให้การรับสารภาพไว้แล้วที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดและกำหนดโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่ทรัพย์ราคาไม่มากและจำเลยเป็นหญิงไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดีสักครั้งหนึ่งจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56”.