คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4073/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ข้อบังคับว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศพ.ศ.2535ที่คณะกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยออกใช้บังคับโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา31(2)แห่งพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยพ.ศ.2497เป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารงานของจำเลยโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับงานของหน่วยงานอื่นหรือของบุคคลภายนอกการที่ผู้อำนวยการจำเลยอนุมัติให้พนักงานคนใดไปปฏิบัติงานโดยมีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักได้ตามข้อบังคับดังกล่าวจึงต้องเป็นการปฏิบัติงานของจำเลยหากเป็นงานของหน่วยงานอื่นหรือของบุคคลภายนอกพนักงานผู้นั้นย่อมไม่มีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักจากจำเลยตามข้อบังคับฉบับนี้การที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอยืมตัวโจทก์ไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการจำเลยอนุมัติให้ยืมตัวไปการอนุมัติกรณีดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุมัติให้ไปปฏิบัติงานของจำเลยโจทก์ไม่มีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักจากจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ผู้อำนวยการจำเลยอนุมัติให้โจทก์ไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโดยช่วยปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โจทก์เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2538 จนถึงวันที่ 10 กันยายน 2539 ในการเดินทางไปปฏิบัติราชการนี้โจทก์มีสิทธิได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง และค่าเช่าที่พักตามข้อบังคับของจำเลยว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ พ.ศ. 2535คิดเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง 94,500 บาท ค่าเช่าที่พัก 189,000 บาทแต่จำเลยไม่จ่ายให้โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเบี้ยเลี้ยงเดินทาง94,500 บาท และค่าเช่าที่พัก 189,000 บาท ให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักตามข้อบังคับของจำเลยว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ พ.ศ. 2535 จากจำเลยได้ เนื่องจากเป็นการเดินทางไปปฏิบัติงานให้แก่ส่วนงานภายนอกไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ขณะที่โจทก์ได้รับอนุมัติจากผู้อำนวยการจำเลยให้ไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กรุงเทพมหานคร โจทก์มีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักได้ตามข้อบังคับว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ พ.ศ. 2535พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางอัตรา 300 บาท และค่าเช่าที่พักอัตราวันละ 600 บาท ให้แก่โจทก์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน2538 ถึงวันที่ 25 เมษายน 2539 คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์และจำเลยว่า ตามข้อบังคับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ พ.ศ. 2535 โจทก์มีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าจำเลยได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าข้อบังคับว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศพ.ศ. 2535 ดังกล่าว เป็นข้อบังคับที่คณะกรรมการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยออกใช้บังคับโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 31(2) แห่งพระราชบัญญัติองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยพ.ศ. 2497 ซึ่งบทกฎหมายดังกล่าวได้ให้คณะกรรมการมีอำนาจวางระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารงานต่าง ๆ ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยจำเลยได้ ดังนั้นข้อบังคับว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ พ.ศ. 2535 จึงเป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารงานของจำเลยโดยเฉพาะ ไม่เกี่ยวกับการงานของหน่วยงานอื่นหรือของบุคคลภายนอก และเมื่อพิจารณาข้อ 9แห่งข้อบังคับดังกล่าวซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลภายนอกที่องค์การโทรศัพท์มีความจำเป็นขอให้ไปปฏิบัติงานต้องได้รับอนุมัติจากผู้อำนวยการก่อน การเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ผู้อำนวยการเป็นผู้กำหนดได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่เกินอัตราสูงสุดตามข้อบังคับนี้” จะเห็นว่าคำว่า “ปฏิบัติงาน” ตามที่บัญญัติไว้ในข้อนี้ก็เหมือนกับคำว่า “ปฏิบัติงาน” ที่บัญญัติไว้ในแห่งอื่น ๆตลอดข้อบังคับ กล่าวคือ มิได้กล่าวไว้ให้ชัดแจ้งว่าเป็นการปฏิบัติงานของจำเลยหรืองานของหน่วยงานอื่นหรือของบุคคลภายนอกแต่การที่จำเลยจะขอให้บุคคลภายนอกไปปฏิบัติงานตามข้อนี้ ย่อมหมายถึงงานของจำเลยเท่านั้น เพราะถ้าเป็นงานของหน่วยงานอื่นหรือของบุคคลภายนอกย่อมอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จำเลยจะมีคำสั่งให้พนักงานไปปฏิบัติงานโดยค่าใช้จ่ายของจำเลยได้ฉะนั้นการที่ผู้อำนวยการจำเลยอนุมัติให้พนักงานคนใดไปปฏิบัติงานโดยมีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักไปตามข้อบังคับว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศพ.ศ. 2535 จึงต้องเป็นการปฏิบัติงานของจำเลย หากเป็นงานของหน่วยงานอื่นหรือของบุคคลภายนอก พนักงานผู้นั้นย่อมไม่มีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักจากจำเลยตามข้อบังคับฉบับนี้ได้ สำหรับโจทก์นั้นสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ขอยืมตัวไปช่วยปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีผู้อำนวยการจำเลยจึงอนุมัติให้ยืมตัวไปว่า การอนุมัติให้ยืมตัวไปปฏิบัติหน้าที่ราชการให้แก่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเช่นนี้ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุมัติให้ไปปฏิบัติงานขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย จำเลย อันจะทำให้โจทก์มีสิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักจากจำเลยได้ตามข้อบังคับว่าด้วย ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานภายในประเทศ พ.ศ. 2535ด้วยเหตุนี้ที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักเพิ่มขึ้นจากที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จ่ายจึงไม่อาจกระทำได้ ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ต่อไปว่า โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าวตามระเบียบว่าด้วย การให้พนักงานไปช่วยปฏิบัติงานกับส่วนงานหรือบุคคลภายนอก พ.ศ. 2539 นั้น ไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลคำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงไป คำพิพากษาศาลแรงงานกลางไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”ส่วนอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share