แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติด ให้โทษในประเภท 1 จำนวน 3 หลอด น้ำหนัก 2.98 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเฮโรอีนดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อเป็นเงิน 1,800 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายจำเลยให้การรับสารภาพ แม้โจทก์มิได้ระบุน้ำหนักเฮโรอีนของกลางว่ามีสารบริสุทธิ์หนักเท่าไร แต่ตามคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 158(5) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว สำหรับน้ำหนักเฮโรอีนของกลางที่เป็นสารบริสุทธิ์จะมีน้ำหนักเท่าใดนั้น เป็นเรื่องที่จะนำสืบในชั้นพิจารณาได้ จำเลยเองก็ฎีกายอมรับว่าเป็นเรื่องประกอบดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลเท่านั้นคำฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2539 เวลากลางวันจำเลยมีเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 3 หลอดน้ำหนัก 2.98 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเฮโรอีนดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อเป็นเงิน 1,800 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ต่อมาเจ้าพนักงานจับจำเลยพร้อมกับยึดได้เฮโรอีนจำนวน 3 หลอด ดังกล่าว และธนบัตรจำนวน 1,800 บาทที่ใช้ในการล่อซื้อเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102ริบเฮโรอีนของกลาง และคืนธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่งการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายบทเดียวกัน ให้ลงโทษฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำคุก 6 ปีจำเลยอายุ 75 ปี และให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี ริบเฮโรอีนของกลางส่วนธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อจำนวน 1,800 บาท คืนให้แก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกมีกำหนด 5 ปีลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมโดยอ้างว่าโจทก์มิได้ระบุน้ำหนักเฮโรอีนของกลางว่ามีสารบริสุทธิ์หนักเท่าไรนั้น เห็นว่าตามคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงและรายละเอียดต่าง ๆ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 158(5)แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว สำหรับน้ำหนักเฮโรอีนของกลางที่เป็นสารบริสุทธิ์จะมีน้ำหนักเท่าใดนั้นเป็นเรื่องที่จะนำสืบในชั้นพิจารณาได้จำเลยเองก็ฎีกายอมรับว่าว่าเป็นเรื่องประกอบดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลเท่านั้น คำฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่า โทษจำคุกที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2กำหนดไว้ 5 ปี แล้วลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือนเป็นโทษขั้นต่ำของกฎหมายแล้ว ไม่อาจจะลงโทษจำเลยให้ต่ำไปกว่านี้อีกได้ เมื่อโทษจำคุกที่จำเลยได้รับเกิน 3 เดือนจึงไม่อาจเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 และไม่อาจรอการลงโทษให้จำเลยได้เช่นกัน เนื่องจากโทษที่จำเลยได้รับเกิน 2 ปี ตามมาตรา 56 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
พิพากษายืน