แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เดิมจำเลยได้เคยยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์แล้วครั้งหนึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ให้ยกคำร้อง และศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น คำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด คดีจึงฟังได้เป็นข้อยุติว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ การที่จำเลยยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ครั้งใหม่ โดยอ้างเหตุว่ายากจนลงกว่าเดิมแม้จะฟังได้ตามข้ออ้างของจำเลย ศาลก็ไม่อาจอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชียืม และบังคับจำนอง จำเลยให้การต่อสู้คดี ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน6,173,166.85 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19 ต่อปี ในต้นเงิน 4,596,466.79 บาทนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกับทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดชำระหนี้จนครบถ้วน
จำเลยอุทธรณ์โดยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง และให้จำเลยนำค่าขึ้นศาลอุทธรณ์มาวางศาลภายใน 15 วัน จำเลยไม่ปฏิบัติตาม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลย หากจำเลยประสงค์จะอุทธรณ์ให้นำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง หลังจากนั้นจำเลยขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลอีกหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายขอขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2543 ก่อนครบกำหนด จำเลยยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาอีก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอุทธรณ์ จึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง และให้นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายในวันที่ 11 สิงหาคม 2543 ตามที่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาครั้งสุดท้าย
จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืน คำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด จึงไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยฎีกาว่า มีเหตุทำให้จำเลยยากจนกว่าเดิม ดังนั้นศาลควรอนุญาตให้ไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์จำเลย เห็นว่าเดิมจำเลยได้เคยยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์มาแล้วครั้งหนึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ให้ยกคำร้องและศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น คำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด คดีจึงฟังได้เป็นข้อยุติว่าคดีของจำเลยไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะอุทธรณ์ การที่จำเลยยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ครั้งใหม่โดยอ้างเหตุว่ายากจนลงกว่าเดิม แม้จะฟังได้ตามข้ออ้างของจำเลย ศาลก็ไม่อาจอนุญาตให้จำเลยดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ได้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน