คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อน โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มรดกจากจำเลยในคดีนี้และบุคคลอื่น ระหว่างคดี จำเลยได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกและได้เอาทรัพย์มรดกให้คนเช่า แล้วศาลพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์มรดกให้โจทก์ โจทก์มาฟ้องจำเลยในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก เพื่อเรียกเอาค่าเช่าทรัพย์มรดกตามส่วนที่โจทก์ได้รับแบ่งในคดีเรื่องก่อนได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกของนางสังวาลย์ สุกใส จำเลยได้เอาที่นามรดกให้บุคคลอื่นเช่า มีค่าเช่าคงเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง โจทก์เคยฟ้องขอแบ่งมรดกรายนี้ จนศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งแล้ว โจทก์จึงขอให้บังคับจำเลยแบ่งค่าเช่านาให้ตามส่วนเป็นเงิน ๒๕,๒๗๔ บาท ๑๘ สตางค์
จำเลยทั้งสามให้การว่าเก็บค่าเช่าได้จริง แต่โจทก์มีส่วนได้เพียง ๒๐,๖๓๕ บาท ๔๔ สตางค์ จำเลยได้แบ่งปันเงินให้ทายาทของนางสังวาลย์ สุกใส ไปหมดแล้ว และฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งเลขแดงที่ ๑๐๓/๒๕๐๒ ซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลยกับพวกเรียกทรัพย์มรดก ศาลได้วินิจฉัยจนได้จัดการแบ่งทรัพย์สินกันเรียบร้อยแล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์คดีนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ พิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์ ๒๐,๖๓๕ บาท ๔๔ สตางค์
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๑๐๓/๒๕๐๒ โจทก์จำเลยพิพาทกันเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของนายสอน นางสังวาลย์ ในระหว่างคดีนั้นผู้จัดการมรดกได้เอาทรัพย์มรดกให้คนเช่า ได้ค่าเช่ามาเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ครั้นศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์ที่พิพาทกันนั้น โจทก์จึงมาฟ้องเรียกดอกผลของทรัพย์พิพาทตามส่วนที่ควรได้ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะดอกผลนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีหมายเลขแดงที่ ๑๐๓/๒๕๐๒ แล้วขณะยื่นฟ้องคดีนั้น โจทก์ไม่อาจทราบได้ว่าทรัพย์มรดกที่โจทก์ฟ้องจะเกิดดอกผลได้อย่างใด เท่าใด ทรัพย์เหล่านั้นอยู่ในความดูแลจัดการของจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อปรากฏว่าทรัพย์มรดกเกิดดอกออกผลขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของผู้จัดการมรดกที่จะต้องแบ่งปันให้แก่ทายาทตามส่วน แต่สำหรับค่าขึ้นศาล ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยควรใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เพียงเท่าจำนวนเงินที่โจทก์ชนะ
จึงพิพากษาแก้เฉพาะเรื่องค่าขึ้นศาล.

Share