คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4069/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า จำเลยมิได้กู้ยืมเงินโจทก์ตามฟ้องและมิได้ทำสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์ไว้ สัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นเอกสารปลอมจึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยค้างชำระหนี้โจทก์อยู่เพียงใด ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดประเด็นว่า จำเลยค้างชำระหนี้โจทก์อยู่เพียงใดไว้ การที่ศาลอุทธรณ์ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความ แต่โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และผลคดีเป็นประโยชน์แก่จำเลยมากแล้ว ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ยืมแก่โจทก์จำนวน 88,125บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญากู้ยืมเงินตามฟ้อง และจำเลยมิได้ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้ ทั้งมิได้กรอกข้อความในสัญญากู้ยืมเงินแต่อย่างใด สัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมจำเลยเคยกู้ยืมเงินโจทก์ไป 2 ครั้ง ไม่ได้ทำหลักฐานการกู้ยืมเงินทั้งสองครั้ง แต่จำเลยได้ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์รับเงินเดือนของจำเลยที่จะได้รับจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยนายจ้างแทนจำเลยได้ทุกเดือนโจทก์ได้นำหนังสือมอบอำนาจของจำเลยไปรับเงินเดือนแทนจำเลยหักชำระหนี้ตลอดมาถึงเดือนพฤศจิกายน 2527จำเลยคงค้างชำระหนี้โจทก์เพียง 1,000 บาท เท่านั้น โจทก์อ้างว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์มากกว่า และปลอมสัญญากู้ยืมเงินเอกสารท้ายฟ้องเป็นหลักฐานฟ้องบีบบังคับให้จำเลยชำระหนี้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นสัญญาปลอม พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยได้กู้ยืมเงินโจทก์ไปและทำสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์ไว้ตามฟ้องจริง แต่จำเลยได้มอบอำนาจให้โจทก์รับเงินเดือนของจำเลยแทนไปแล้วบางส่วน คงค้างชำระหนี้อยู่เพียง 7,100 บาท กับค้างชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 27 กรกฎาคม2527 เป็นต้นไป พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์จำนวน7,100 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับปัญหาที่ว่าจำเลยค้างชำระหนี้โจทก์อยู่เพียงใดนั้นจำเลยให้การต่อสู้คดีแต่เพียงว่า จำเลยมิได้กู้ยืมเงินโจทก์ตามฟ้องและมิได้ทำสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์ไว้สัญญากู้ยืมเงินที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นเอกสารปลอมจึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยค้างชำระหนี้โจทก์อยู่เพียงใด และศาลชั้นต้นก็มิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ ที่ศาลอุทธรณ์ยกปัญหาข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความ แต่โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และผลคดีเป็นประโยชน์แก่จำเลยมากแล้ว ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ให้จำเลย
พิพากษายืน

Share