คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4062/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ที่แก้ไขข้อบังคับและย้ายที่ตั้งของสมาคม อ้างว่าการลงมติเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับมติที่ประชุมใหญ่จึงเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคำฟ้องขอให้เพิกถอนมติของสมาคมที่ฝ่าฝืนต่อข้อบังคับตาม ป.พ.พ.มาตรา 1291 ซึ่งสมาชิกมีสิทธิจะร้องขอให้เพิกถอน แต่อย่าให้เนิ่นช้าเกินกว่า 1 เดือนนับแต่วันที่ได้ลงมตินั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นสมาชิกของจำเลยที่ ๑ ที่มีจำเลยที่ ๒ เป็นผู้จัดการจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันจัดประชุมใหญ่โดยมิได้แจ้งให้สมาชิกทราบ อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของจำเลยที่ ๑ แล้วลงมติแก้ไขข้อบังคับและทำการย้ายที่ตั้งของจำเลยที่ ๑ มติที่ประชุมใหญ่ดังกล่าวเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์และสมาชิกได้รับความเสียหาย ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ทั้งสองมิได้เป็นสมาชิกของจำเลยที่ ๑ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การแจ้งย้ายที่ตั้งของจำเลยที่ ๑ เป็นไปโดยชอบ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ที่แก้ไขข้อบังคับและย้ายที่ตั้งของสมาคมจำเลยที่ ๑ อ้างว่า การลงมติเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของจำเลยที่ ๑ มติที่ประชุมใหญ่จึงเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีตามคำฟ้องจึงเป็นการขอให้เพิกถอนมติของสมาคมที่ฝ่าฝืนต่อข้อบังคับ จึงอยู่ในบังคับของมาตรา ๑๒๙๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งให้สิทธิแก่สมาชิกที่จะร้องขอให้เพิกถอนมตินั้นเสียได้ แต่อย่าให้เนิ่นช้าเกินกว่า ๑ เดือน นับแต่วันที่ได้ลงมตินั้น เมื่อโจทก์ที่ ๑ ซึ่งเป็นสมาชิกใช้สิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายจำกัดสิทธิไว้ กรณีจึงต้องห้าม
พิพากษายืน.

Share